รวบแล้ว "ไอ้โจ้" ฆ่าโหดสาวใหญ่เมืองห้วยยอด สารภาพแค้นผู้ตายไม่ให้ยืมเงิน

จับแล้ว "ไอ้โจ้" มือฆ่าโหดสาวใหญ่เมืองตรัง สารภาพแค้นผู้ตายไม่ให้ยืมเงิน จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบฆ่าชิงทรัพย์ ก่อนหลบหนีไปกระบี่ ขณะที่ลูกผู้ตายเผยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากกรณี นางวนิดา ตุลยสุข อายุ 43 ปี เสียชีวิตจมกองเลือดจากการโดนฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ภายในห้องนอนในบ้าน โดยสภาพศพมีร่องรอยบาดแผลโดนแทงด้วยกรรไกร และโดนทุบด้วยของแข็งบริเวณที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ รวมทั้งลำคอถูกรัดด้วยสายไฟฟ้าชนิดอ่อน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 24 มี.ค. 62 พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน และกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย ร่วมกันนำตัว นายจันทร์เกษม หรือ โจ้ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตรัง ที่ 179/2562 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น

จากนั้นตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปยังที่เกิดเหตุบริเวณ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางญาติพี่น้องของผู้ตาย และชาวบ้านกว่า 60 ชีวิต ที่ยืนรอดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแสดงท่าทีที่ไม่พอใจ เจ้าหน้าที่จึงเจ้าเป็นตรึงกำลังล้อมบริเวณไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุมประชาทัณฑ์ขึ้น ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาลงจากรถและนำไปชี้จุดก่อเหตุ

พล.ต.ต.นุกูล กล่าวว่า ชุดสืบสวนสอบสวนได้สืบทราบว่าผู้ต้องหา ได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตเทศบาล ต.คลองพล อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จึงได้เข้าตรวจสอบและจับกุม พร้อมด้วยของกลางแหวนทองคำของผู้ตาย 2 วง สร้อยพระเหลี่ยมทอง 1 เส้น รถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหา 1 คัน ที่ใช้ในการก่อเหตุ เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาใส่ในวันก่อนเหตุ มีคราบเลือดติดอยู่ พร้อมกรรไกรและสายไฟฟ้ายาว 2 เมตร

ขณะที่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายจริง และรู้จักกับผู้ตายดี เนื่องจากในวันก่อเหตุได้เดินทางมาที่บ้านผู้ตายเพื่อยืมเงิน แต่ผู้ตายปฏิเสธบอกไม่มี ผู้ต้องหาจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ เห็นผู้ตายสวมสร้อยแหวนทองคำ จึงลงมือฆ่าเพื่อเอาทรัพย์ แล้วหลบหนีไปพื้นที่ จ.กระบี่ จนสามารถจับกุมได้ในที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นางปรียา ตุลยสุข อายุ 57 ปี พี่สาวผู้ตาย ซึ่งอยู่บ้านติดกัน เล่าว่า เห็นผู้ต้องหาเคยมาที่บ้านน้องสาวหลายครั้ง และก่อนเกิดเหตุก็เห็นว่าผู้ต้องหามา แต่ไม่คิดว่าจะทำกันลงคอแบบนี้ ซึ่งน้องสาวสนิทกับภรรยาของผู้ต้องหา และไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งที่ จ.กระบี่ ตนเองพูดอะไรไม่ถูกหลังจากเกิดเหตุ แต่ขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ ทำงานอย่างเต็มความสามารถ

ทางด้าน นายสุรินทร์ จับปรั่ง อายุ 24 ปี ลูกชายผู้ตาย ซึ่งทำงานในโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะลันตา จ.กระบี่ กล่าวว่า ตนเองไม่เคยรู้จักผู้ต้องหามาก่อน แต่การกระทำครั้งนี้มันโหดเหี้ยมอย่างที่สุด อยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถ้าประหารชีวิตได้ก็อยากให้ประหาร ไม่สมควรที่จะกระทำได้ถึงขนาดนี้.

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ไทยรัฐ ออนไลน์