ไข้เลือดออกบุก'ตรัง' เตือนเฝ้าระวังระบาดรุนแรง-ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์


13 มิ.ย.62 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง นายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒน์ปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของจังหวัดตรัง หลัวจากที่อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ อกมาเปิดเผยถึงแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มสูงขึ้น  และพบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกแล้วกว่า 40 ราย ในส่วนของจังหวัดตรังนั้น การแพร่ระบาดแม้ยังถึงขั้นรุนแรง แต่ก็มีการเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้ในพื้นที่ภาคใต้และที่จังหวัดตรังเข้าสู่ช่วงมรสุม ทำให้เกิดภาวะฝนตก ทำให้เกิดน้ำขัง ซึ่งจะทำให้ยุงลายวางไข่ ยุงลายนั้นเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก ดังนั้นหากมีน้ำขังประชาชนควรทำลายแหล่งน้ำขัง เพื่อเป็นการป้องกันการวางไข่ของยุงลาย


“สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดตรัง มีการแพร่ระบาดไม่สูงมาก อยู่ในอันดับที่ 6 ของเขต 12 ยังไม่มีผู้เสียชีวิต  ในส่วนของผู้ป่วยนั้นจะเป็นกลุ่มเด็กเล็กและกลุ่มคนในวัยทำงาน ทั้งนี้ประชาชนที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง  โรคหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหอบหืด ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนืองจากเป็นกลุ่มเสี่ยงหากเป็นโรคไข้เลือดออกทำให้ยากต่อการรักษา อีกทั้งประชาชนไม่ควรซื้อยาประเภท เอ็นเสด ซึ่งเป็นยาแก้ปวดลดไข้มารับประทานเอง เนื่องจากยาดังกล่าวมีผลกระทบต่อโรค เมื่อประชาชนป่วยเป็นไข้ควรรีบพบแพทย์ทันที  เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยโรคว่าป่วยเป็นไข้หวัดตามฤดูกาลหรือโรคไข้เลือดออก  หากซื้อยาดังกล่าวมารับประทานจะทำให้ยากต่อการวินิจฉัยโรค” นายแพทย์บรรเจิด กล่าว
นายแพทย์บรรเจิด กล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมานั้นทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์แหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย เพื่อถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้การควบคุมโรคไข้เลือดออก สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมาก  ดังนั้นประชาชนมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกและโรคปวดข้อยุงลาย โดยการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย การรักษาโรคนั้นเป็นเพียงปลายเหตุ ต้นเหตุต้องกำจัดยุงลายไม่ให้มีการวางไขหรือการกำจัดยุงตัวแก่จึงจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกได้   





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก แนวหน้า

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า