รพ. ห้วยยอดแจงชัด ลุงสมองตาย ไม่เกี่ยวถูกงูเห่ากัด - ลูกโต้กลับ พ่อเป็นแบบนี้เพราะหมอ

           โรงพยาบาลห้วยยอด แจงกรณีชายถูกงูเห่ากัด ชี้รักษาตามอาการแล้ว ยันไม่ได้ให้ยาธาตุน้ำขาว อาการอื่น ๆ ไม่เกี่ยวกัน ด้านลูกสาวยังติดใจ ทำไมไม่รีบฉีดเซรุ่ม พ่อทรุดเพราะหมอ
 
           จากกรณีที่ลูกหลานของ นายจำรัส ซุ่นสั่น อายุ 68 ปี ชาว จ.ตรัง ออกมาร้องเรียนโรงพยาบาลห้วยยอด หลังจากที่นายจำรัสถูกงูเห่ากัดแล้วทางโรงพยาบาลไม่ฉีดเซรุ่มให้ อีกทั้งปล่อยให้แผลเน่า กว่าจะฉีดเซรุ่มให้ก็อาการหนักแล้ว และต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น
           
          ในขณะนี้นายจำรัสมีอาการโคม่า สมองตาย ต้องเข้าให้ไอซียู หมอบอกให้ญาติทำใจแล้วว่าคงไม่รอด (ลูกโวยรพ. พ่อถูกงูเห่ากัด แต่ไม่ฉีดเซรุ่ม ปล่อยให้แผลเน่า ตอนนี้นอนรอความตาย)

           ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 21 กรกฎาคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า น.พ.ปิยวิทย์ เนกขพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลห้วยยอด ชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า นายจำรัส ผู้ป่วย ได้เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ในช่วงนอนดูอาการนั้น พบว่าการหายใจ การเต้นของหัวใจ และการทำงานของปอดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทางโรงพยาบาลจึงไม่ได้ฉีดเซรุ่มให้ ซึ่งได้มีการชี้แจงให้ญาติรับทราบแล้ว 
สำหรับการป้องกันภาวะการติดเชื้อ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำแผล และได้ให้ยาปฏิชีวนะตั้งแต่วันแรก ส่วนเรื่องการให้ยาธาตุน้ำขาวอย่างที่เป็นข่าวนั้น ตนได้สอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมตรวจสอบดูเอกสารเวชระเบียนที่บันทึกการรักษาแล้ว พบว่ามีการฉีดยารักษาอาการคลื่นอาเจียนให้ เนื่องจากคนไข้มีอาการแน่นท้อง แต่ไม่มีการให้ยาธาตุน้ำขาวแต่อย่างใด

          น.พ. ปิยวิทย์ ยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลได้ทำการรักษานายจำรัสตามแนวทางการดูแลผู้บาดเจ็บจากการถูกงูกัดแล้ว และหลังจากพบว่าแผลของคนไข้เริ่มเป็นตุ่มใส จึงตัดสินใจทำเรื่องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง


         สำหรับอาการล่าสุดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องปอดอักเสบ ติดเชื้อ ดื้อยา รวมถึงอาการไตวายและสมองตาย จนเข้าสู่ภาวะโคม่า สาเหตุไม่ได้เกิดจากการถูกงูกัดโดยตรง แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง เพราะโดยปกติแล้ว คนไข้ที่ถูกงูกัดมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายอยู่แล้ว เนื่องจากพิษงูมีเชื้อหลายตัว

          ทางด้าน นางสุพิศ ทองแท้ อายุ 49 ปี ลูกสาวของนายจำรัส เปิดเผยว่า แพทย์ได้เชิญเข้าไปรับฟังข้อชี้แจงแล้ว อธิบายให้ตนฟังว่างูแต่ละชนิดจะใช้เซรุ่มไม่เหมือนกัน สำหรับกรณีงูเห่า ต้องรอดูอาการก่อนว่าคนไข้จะหลับหรือไม่ แต่พ่อของตนไม่หลับ เจ้าหน้าที่จึงให้รอดูอาการไปก่อน 
ส่วนเรื่องยาธาตุน้ำขาวที่ทางโรงพยาบาลปฏิเสธ ตนยืนยันว่าทางโรงพยาบาลเอามาให้พ่อกินจริง เพราะมองแล้วเป็นยาธาตุน้ำขาว 

          ตอนนี้ทางครอบครัวก็ยังคงติดใจว่าทำไมโรงพยาบาลถึงไม่ฉีดเซรุ่มให้พ่อ อีกทั้งปล่อยไว้ 4 วัน จนทรุดหนัก ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะตายหรือกลายเป็นคนพิการ ซึ่งสาเหตุเกิดจากหมอที่ไม่ประเมินอาการตั้งแต่แรก ทั้งที่ตนแจ้งไปแล้วว่าพ่อถูกงูเห่ากัด 

          นอกจากนี้แล้ว อาการที่พ่อเป็นตอนนี้ ตนมั่นใจว่ามาจากพิษของงูเห่า พราะปกติพ่อเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง สามารถทำงานก่อสร้างได้ รวมถึงไม่มีโรคประจำตัว 

          ทางโรงพยาบาลห้วยยอด บอกตนว่าจะรับผิดชอบ แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าจะรับผิดชอบอย่างไร และตนอยากให้พ่อได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ต่อไป ส่วนอาการพ่อตอนนี้ การติดเชื้อก็ลดลงบ้าง แต่หมอก็แจ้งมาว่าตอนนี้ไตเริ่มจะวายแล้ว สมองก็ตาย ในใจก็หวังอยู่ ตนรู้สึกเสียใจมาก ก็อยากให้พ่อกลับมา แม้จะพิการก็ตาม 






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก อมรินทร์ทีวี

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า