เปิดกรุหนังสือบุดโบราณส่งคืนจากหลายจังหวัด คาดมีกว่า 100 เล่ม พบเล่มสำคัญ “ตำรายันต์” ของเจ้าพระยานครน้อย ฝีมือช่างหลวง ราชสำนักนครศรีธรรมราช สมัยต้นรัตนโกสินทร์ หลังผู้ต้องหาโยนทิ้งในคูน้ำเน่าเสีย หวังทำลายหลักฐาน โชคดีได้ผู้เชี่ยวชาญช่วยฟื้นฟู
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ห้องประชุมพุทธสมาคม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายสุรเชษฐ์ แก้วสกุล ผู้เชี่ยวชาญหนังสือบุดโบราณ ได้นำเอาหนังสือบุดดำ ซึ่งภายในเป็นตำรายันต์ชั้นสูงชนิดต่างๆ โดยเชื่อว่าเป็นตำรายันต์ของเจ้าพระยานครน้อย เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มาจัดแสดง หลังจากได้ฟื้นฟูหนังสือบุดเล่มนี้จากการจมอยู่ในน้ำเน่าเสีย เนื่องจากนายฐิติพงศ์ ศิริเวช ผู้ต้องหารายสำคัญได้โยนทิ้งในคูน้ำ เพื่อทำลายหลักฐาน
ก่อนหน้านี้ นายฐิติพงศ์ ได้ประกาศขายหนังสือบุดเล่มนี้ในราคา 4 แสนบาท เนื่องจากเชื่อว่าเป็นตำรายันต์ที่เจ้าพระยานครน้อยใช้ในพิธีกรรมสร้างยันต์ หรือสักยันต์ และฝีมือในการเขียนตำรายันต์นั้นเชื่อว่าเป็นฝีมือครูหมอเลขยันต์ในราชสำนักนครศรีธรรมราช เมื่อกว่า 200 ปีก่อน เนื่องจากมีลักษณะศิลปะการเขียนที่ละเอียดอ่อนงดงามกว่าตำรายันต์ทั่วไป

นอกจากนั้น พระสงฆ์ผู้ประสานงานศูนย์รับบิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นายสมปอง รักษาธรรม รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ร่วมกันเปิดกล่องพัสดุที่ถูกส่งมาจาก จ.เชียงใหม่ ระยอง ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ผู้ส่งได้ซื้อโดยไม่ทราบว่าเป็นหนังสือบุดที่ได้จากการโจรกรรม จึงแสดงเจตนาส่งคืนโดยไม่มีเงื่อนไขตามที่ศูนย์บิณฑบาต ยืนยันว่า หากส่งคืนผ่านศูนย์จะไม่มีการขยายผลใดๆ
การส่งคืนรอบนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจนับจำนวน ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 100 เล่ม ทั้งบุดดำ บุดขาว และบุดตีนช้าง นอกจากนั้นยังมีดาบโบราณส่งคืนมาอีก 1 เล่ม จากทั้งหมดสูญหายในส่วนวัตถุโบราณประเภทอาวุธโบราณ และผ้าโบราณรวม 29 รายการ ส่วนหนังสือบุดที่สูญหายนั้นได้ยืนยันทางทะเบียนทั้งหมด จำนวน 309 เล่ม สำหรับก่อนหน้านี้มีจำนวนที่ส่งคืนเป็นของกลางแล้วจำนวน 148 เล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คัดกรองยืนยันว่าอยู่ในสารบบทะเบียนของมหาวิทยาลัย จำนวน 78 เล่ม ที่เหลืออยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า นายฐิติพงศ์ได้รับสารภาพว่า ได้รับซื้อหนังสือบุดจากนายอำนวย ทองทะวัย เจ้าหน้าที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช รวม 9 ครั้ง ในต่างเวลากัน โดยนายอำนวย ได้ใช้ทั้งการนำรถยนต์ของทางราชการ และรถจักรยานยนต์ไปส่งให้นายฐิติพงศ์ ตามจุดนัดหมาย แต่ขณะนี้ นายอำนวย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรค เนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนามาก จึงเสนอศาลในการอนุมัติหมายจับกุมได้


วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ห้องประชุมพุทธสมาคม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายสุรเชษฐ์ แก้วสกุล ผู้เชี่ยวชาญหนังสือบุดโบราณ ได้นำเอาหนังสือบุดดำ ซึ่งภายในเป็นตำรายันต์ชั้นสูงชนิดต่างๆ โดยเชื่อว่าเป็นตำรายันต์ของเจ้าพระยานครน้อย เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มาจัดแสดง หลังจากได้ฟื้นฟูหนังสือบุดเล่มนี้จากการจมอยู่ในน้ำเน่าเสีย เนื่องจากนายฐิติพงศ์ ศิริเวช ผู้ต้องหารายสำคัญได้โยนทิ้งในคูน้ำ เพื่อทำลายหลักฐาน
ก่อนหน้านี้ นายฐิติพงศ์ ได้ประกาศขายหนังสือบุดเล่มนี้ในราคา 4 แสนบาท เนื่องจากเชื่อว่าเป็นตำรายันต์ที่เจ้าพระยานครน้อยใช้ในพิธีกรรมสร้างยันต์ หรือสักยันต์ และฝีมือในการเขียนตำรายันต์นั้นเชื่อว่าเป็นฝีมือครูหมอเลขยันต์ในราชสำนักนครศรีธรรมราช เมื่อกว่า 200 ปีก่อน เนื่องจากมีลักษณะศิลปะการเขียนที่ละเอียดอ่อนงดงามกว่าตำรายันต์ทั่วไป
นอกจากนั้น พระสงฆ์ผู้ประสานงานศูนย์รับบิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นายสมปอง รักษาธรรม รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ร่วมกันเปิดกล่องพัสดุที่ถูกส่งมาจาก จ.เชียงใหม่ ระยอง ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ผู้ส่งได้ซื้อโดยไม่ทราบว่าเป็นหนังสือบุดที่ได้จากการโจรกรรม จึงแสดงเจตนาส่งคืนโดยไม่มีเงื่อนไขตามที่ศูนย์บิณฑบาต ยืนยันว่า หากส่งคืนผ่านศูนย์จะไม่มีการขยายผลใดๆ
การส่งคืนรอบนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจนับจำนวน ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 100 เล่ม ทั้งบุดดำ บุดขาว และบุดตีนช้าง นอกจากนั้นยังมีดาบโบราณส่งคืนมาอีก 1 เล่ม จากทั้งหมดสูญหายในส่วนวัตถุโบราณประเภทอาวุธโบราณ และผ้าโบราณรวม 29 รายการ ส่วนหนังสือบุดที่สูญหายนั้นได้ยืนยันทางทะเบียนทั้งหมด จำนวน 309 เล่ม สำหรับก่อนหน้านี้มีจำนวนที่ส่งคืนเป็นของกลางแล้วจำนวน 148 เล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คัดกรองยืนยันว่าอยู่ในสารบบทะเบียนของมหาวิทยาลัย จำนวน 78 เล่ม ที่เหลืออยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า นายฐิติพงศ์ได้รับสารภาพว่า ได้รับซื้อหนังสือบุดจากนายอำนวย ทองทะวัย เจ้าหน้าที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช รวม 9 ครั้ง ในต่างเวลากัน โดยนายอำนวย ได้ใช้ทั้งการนำรถยนต์ของทางราชการ และรถจักรยานยนต์ไปส่งให้นายฐิติพงศ์ ตามจุดนัดหมาย แต่ขณะนี้ นายอำนวย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรค เนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนามาก จึงเสนอศาลในการอนุมัติหมายจับกุมได้
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์