ช่างตัดผมเมืองตรังใช้พื้นที่หลังร้านเลี้ยงปลากัดสวยงามส่งขาย ทำให้กลายมาเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัวในยุคโควิด-19 หลังมีผลกระทบจากลูกค้าที่เข้าร้านตัดผมน้อยลง
นายโสภณ กำเนิด อายุ 34 ปี เจ้าของร้านตัดผมชายไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 38/4 บริเวณปากซอยวังตอ 2/2 ถนนวังตอ ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งประกอบอาชีพตัดผมมากว่า 10 ปีแล้ว ได้ใช้พื้นที่ว่างบริเวณหลังร้านมาเพาะขยายพันธุ์ปลากัดสวยงาม สืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยาวนานเกือบ 2 ปี ทำให้มีลูกค้าเข้าร้านตัดผมน้อยลงมาก และเดิมเจ้าตัวชื่นชอบการเลี้ยงปลากัดอยู่แล้ว แต่มีเพียงแค่ 2-3 คู่เท่านั้น กระทั่งเมื่อปลากัดออกลูกออกหลานจำนวนมาก จึงลองนำมาใส่ขวดแก้ววางไว้หน้าร้าน ปรากฏว่า มีทั้งลูกค้าตัดผมและผู้ที่ผ่านไปมาขอซื้อในราคาตัวละ 50-80 บาท
ดังนั้น เมื่อเห็นว่าเป็นช่องทางทำรายได้ได้ดี นายโสภณ จึงทำการเพาะเลี้ยงปลากัดสวยงามอย่างจริงจัง จนขณะนี้มีประมาณ 20 กะละมัง รวมแล้วหลายพันตัว จาก 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เรดกาแล็คซี่โกลด์ และกาแล็คซี่ ซึ่งมีราคาตัวละ 80-100 บาท ส่วนสายพันธุ์ที่ขายดีและมีราคาสูง เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ คือ แบล็กสตาร์ กับแบล็กโกลสตาร์ เพราะเมื่อปลากัดออกสีตัวตามตัวจะมีความสวยงามมาก ทำให้ขายได้ตั้งแต่ตัวละหลักพันบาท หรือขายเป็นคู่ๆ ละ 3,500 บาท หรือคู่ละหลายพันบาท
ทั้งนี้ ปลากัดสวยงามจะใช้เวลาเลี้ยงไม่นานประมาณ 3 เดือนเศษ ก่อนคัดแยกเพื่อนำมาขุนต่อด้วยการเลี้ยงเดี่ยวภายในขวดแก้ว ขวดโหล หรือถังน้ำพลาสติกตัดครึ่ง เมื่อนำมาขุนต่ออีกประมาณเดือนครึ่งจะได้ขนาดที่ต้องการ ก่อนจับมาถ่ายภาพแล้วโพสต์ขายออนไลน์ทั่วไป หรือในกลุ่มปลากัดสวยงาม เพื่อให้ลูกค้าประมูล โดยจะมีคนไทยซึ่งเป็นนายหน้ามาซื้อปลากัดสวยงามเหล่านี้ส่งไปขายยังต่างประเทศ ทั้งที่มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย เกาหลี จีน
โดยที่ผ่านมา นายโสภณ สามารถขายได้เดือนละหลายสิบคู่ ส่วนราคาขึ้นอยู่กับความสวยงามของปลากัดที่ลูกค้าชื่นชอบ รวมทั้งวางขายหน้าร้านด้วย ทำให้จากเดิมเป็นอาชีพเสริม แต่ขณะนี้แม้ลูกค้ายังคงเข้าไปใช้บริการตัดผมอย่างต่อเนื่อง แต่การเลี้ยงปลากัดสวยงามกลับกลายเป็นอาชีพหลักแล้ว เพราะมีรายได้เลี้ยงครอบครัวแทนอาชีพช่างตัดผม เพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้คนระมัดระวังในการเข้าร้านตัดผมกันมากขึ้น ทั้งนี้ หากผู้ใดสนใจอยากได้ปลากัดสวยงามไปเลี้ยงสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 09-5694-8342
นายโสภณ กำเนิด อายุ 34 ปี เจ้าของร้านตัดผมชายไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 38/4 บริเวณปากซอยวังตอ 2/2 ถนนวังตอ ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งประกอบอาชีพตัดผมมากว่า 10 ปีแล้ว ได้ใช้พื้นที่ว่างบริเวณหลังร้านมาเพาะขยายพันธุ์ปลากัดสวยงาม สืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยาวนานเกือบ 2 ปี ทำให้มีลูกค้าเข้าร้านตัดผมน้อยลงมาก และเดิมเจ้าตัวชื่นชอบการเลี้ยงปลากัดอยู่แล้ว แต่มีเพียงแค่ 2-3 คู่เท่านั้น กระทั่งเมื่อปลากัดออกลูกออกหลานจำนวนมาก จึงลองนำมาใส่ขวดแก้ววางไว้หน้าร้าน ปรากฏว่า มีทั้งลูกค้าตัดผมและผู้ที่ผ่านไปมาขอซื้อในราคาตัวละ 50-80 บาท
ดังนั้น เมื่อเห็นว่าเป็นช่องทางทำรายได้ได้ดี นายโสภณ จึงทำการเพาะเลี้ยงปลากัดสวยงามอย่างจริงจัง จนขณะนี้มีประมาณ 20 กะละมัง รวมแล้วหลายพันตัว จาก 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เรดกาแล็คซี่โกลด์ และกาแล็คซี่ ซึ่งมีราคาตัวละ 80-100 บาท ส่วนสายพันธุ์ที่ขายดีและมีราคาสูง เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ คือ แบล็กสตาร์ กับแบล็กโกลสตาร์ เพราะเมื่อปลากัดออกสีตัวตามตัวจะมีความสวยงามมาก ทำให้ขายได้ตั้งแต่ตัวละหลักพันบาท หรือขายเป็นคู่ๆ ละ 3,500 บาท หรือคู่ละหลายพันบาท
ทั้งนี้ ปลากัดสวยงามจะใช้เวลาเลี้ยงไม่นานประมาณ 3 เดือนเศษ ก่อนคัดแยกเพื่อนำมาขุนต่อด้วยการเลี้ยงเดี่ยวภายในขวดแก้ว ขวดโหล หรือถังน้ำพลาสติกตัดครึ่ง เมื่อนำมาขุนต่ออีกประมาณเดือนครึ่งจะได้ขนาดที่ต้องการ ก่อนจับมาถ่ายภาพแล้วโพสต์ขายออนไลน์ทั่วไป หรือในกลุ่มปลากัดสวยงาม เพื่อให้ลูกค้าประมูล โดยจะมีคนไทยซึ่งเป็นนายหน้ามาซื้อปลากัดสวยงามเหล่านี้ส่งไปขายยังต่างประเทศ ทั้งที่มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย เกาหลี จีน
โดยที่ผ่านมา นายโสภณ สามารถขายได้เดือนละหลายสิบคู่ ส่วนราคาขึ้นอยู่กับความสวยงามของปลากัดที่ลูกค้าชื่นชอบ รวมทั้งวางขายหน้าร้านด้วย ทำให้จากเดิมเป็นอาชีพเสริม แต่ขณะนี้แม้ลูกค้ายังคงเข้าไปใช้บริการตัดผมอย่างต่อเนื่อง แต่การเลี้ยงปลากัดสวยงามกลับกลายเป็นอาชีพหลักแล้ว เพราะมีรายได้เลี้ยงครอบครัวแทนอาชีพช่างตัดผม เพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้คนระมัดระวังในการเข้าร้านตัดผมกันมากขึ้น ทั้งนี้ หากผู้ใดสนใจอยากได้ปลากัดสวยงามไปเลี้ยงสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 09-5694-8342
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกบจาก ผู้จัดการออนไลน์
Tags
ข่าวเมืองตรัง