นกหว้าเป็นนกที่มีขนาดใหญ่ จัดอยู่ในสัตว์ปีกจำพวกไก่ฟ้าของไทย หัวและคอไม่มีขน เป็นหนังสีฟ้าเข้ม แข้งและตีนสีแดง ขนลำตัวด้านบนสีน้ำตาล ลำตัวด้านล่างสีน้ำตาลแดง ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเด่นชัด ตัวผู้ขนกลางปีกยาวมาก มีลายเป็นวงใหญ่สีเนื้อ ขนหางคู่กลางยาวมากกว่า 130 ซม.เมื่อนกหว้าเสียงร้อง "หว่าว ว้าว" ที่ดังลั่นป่าในยามเช้า มักเป็นช่วงที่ตัวผู้ร้องเรียกตัวเมีย เมื่อพบตัวเมีย ตัวผู้ก็จะเกี้ยวพาราสีด้วยการรำแพนขนปีกเพื่อดึงดูดใจตัวเมียบนลานที่ถูกสร้างเอาไว้อวดตัวเมีย และผสมพันธุ์ เรียกว่า "
ลานนกหว้า" ซึ่งมักทำจากการหาพื้นที่ราบเล็กๆ ตามสันเขาในป่าดิบชื้น อาจอยู่บนสันเขาที่มีความสูงถึง 950 เมตร
หลังจากผสมพันธุ์แล้ว ตัวเมียจะแยกตัวออกไปทำรังออกไข่ ตัวเมียจะสร้างรังหยาบๆ ด้วยกิ่งไม้เล็กบนพื้นดินใต้พุ่มไม้ทึบ ปูพื้นรังด้วยใบไม้ วางไข่เพียง 2 ฟองเท่านั้นโดยห่างกัน 2 วัน ไข่มีสีครีมหรือขาว ระยะฟักไข่ 26 วัน ลูกนกแรกเกิดลืมตาได้ มีขนอุยปกคลุมทั่วตัวและเดินตามแม่ไปหาอาหารได้ทันทีโดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติศรีพังงา ในเขตอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นอุทยานที่มีสภาพป่าเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีสถานที่น่ารื่นรมย์สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เช่น น้ำตก ลำน้ำ ภูเขา ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม รวมถึงมีนกหายาก อย่างนกหว้า พญาระกาแห่งปักษ์ใต้ ซึ่งปัจจุบัน นกหว้าคงมีสถานะที่อยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ที่นี่ ยามเช้าเรามักได้ยินเสียงร้องของตัวผู้กึกก้องทั่วป่าในอุทยานนับสิบตัวนายสันนิยศ ครุนทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีพังงา จังหวัดพังงา กล่าวว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีพังงา เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลาย เนื้อที่กว่า 1 แสนไร่ ธรรมชาติของผืนป่าเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ด้วยความสมบูรณ์ของป่าแห่งนี้ ที่มีการเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวเข้าชม อย่างนกแต้วแร้วท้องลาย นกหว้า หรือนกพญาระกาปักษ์ใต้ เป็นนกขนาดใหญ่ ช่วงผสมพันธุ์ ตัวผู้กวาดลาน รำแพน เรียกตัวเมียเพื่อจับคู่ดูแล้วสวยงามและน่าประทับใจ และนักท่องเที่ยวช่างภาพ นิยมมาถ่ายภาพเพื่อความสวยงามและประทับใจยามนั่งมองถึงความสวยงามและลีลาของนกชนิดนี้ในปัจจุบัน ที่อุทยานแห่งชาติศรีพังงา จำนวนนกและสัตว์ป่าถือว่ามีการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น จากความร่วมมือของชาวบ้านโดยรอบที่ช่วยกันอนุรักษ์ไม่รุกล้ำที่อยู่อาศัยและไม่ล่าสัตว์เป็นอาหาร กอปรกับเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราและทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จนเกิดการอนุรักษ์ร่วมกันผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 08-6948-4592
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์