ชาวบ้านเกาะลิบงร้องแผงและอาคารโซลาร์เซลล์ถูกปล่อยทิ้งร้างไร้การเหลียวแล

ชาวบ้านเกาะลิบง ร้องแผงและอาคารโซลาร์เซลล์ซึ่งสร้างด้วยงบกว่า 80 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อปี 2543 ถูกปล่อยทิ้งให้พัง และรกร้างอย่างน่าเสียดายบนเกาะ แทนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ

วันนี้ (14 ต.ค.) นายอิสมาแอน เบ็ญสะอาด กรรมการเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง พร้อมกับชาวบ้านบนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบแผงและอาคารโซลาร์เซลล์ ที่ก่อสร้างด้วยงบประมาณกว่า 80 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2543 โดยองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (NEDO) ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ เพื่อใช้สำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าทดแทนจากแสงอาทิตย์ และตั้งเป้าจะผลิตกระแสไฟฟ้าใช้บนเกาะ และขายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ หลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ ได้มีการมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ดูแลบำรุงรักษา และมีพิธีเปิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2546 เพื่อให้ประชาชนบนเกาะลิบง จำนวนกว่า 800 ครัวเรือน หรือประมาณ 4,000 คน ที่ขณะนั้นระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยังเข้าไปไม่ถึง ซึ่งต่อมา เมื่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ก่อสร้างและติดตั้งระบบไฟฟ้าผ่านสายเคเบิลใต้น้ำเข้าไปถึง กระทรวงพลังงานจึงได้ถอดแผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์แผงควบคุมไฟฟ้าที่อยู่บริเวณด้านนอก รวมทั้งภายในอาคารส่วนหนึ่งออกไปติดตั้งที่จังหวัดอื่น โดยไม่ได้ประโยชน์จากแผงและอาคารโซลาร์เซลล์ดังกล่าวอีก จนถูกปล่อยทิ้งให้พัง และรกร้าง

  

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ได้มีชาวบ้านออกมาร้องเรียน และนายก อบต.เกาะลิบง ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า หลังจากที่ทาง อบต.ได้รับมอบแผงและอาคารโซลาร์เซลล์ในส่วนที่เหลือ ก็ทำได้เพียงแค่ดูแลรักษาทรัพย์สินเอาไว้เท่านั้น เพราะไม่มีงบประมาณซ่อมแซม ขณะที่พลังงานจังหวัดตรัง ได้ออกมาชี้แจงว่า ขณะนี้แผงโซลาร์เซลล์เสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ และมีเหลืออายุการใช้งานอีก 10 ปีเท่านั้น ซึ่งไม่อาจปรับปรุงให้กลับมาผลิตกระแสไฟฟ้าขายได้อีกแล้ว เพราะต้องใช้งบประมาณสูง ไม่คุ้มค่า แต่ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีก เช่น ใช้สูบน้ำเพื่อผลิตน้ำดื่มใช้บนเกาะ หรือใช้เป็นอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
นายอิสมาแอน เบ็ญสะอาด กรรมการเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากความพยายามของ อบต.หลายครั้ง ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ตอบรับจากกระทรวงพลังงานเลย ทำให้ชาวบ้านเกิดความผิดหวัง เหมือนกับมาหลอกชาวบ้านไว้ว่าที่นี่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องพลังงานทางเลือก แต่สุดท้ายความหวังต้องพังทลาย เพราะกระทรวงพลังงานไม่มาสนใจ ไม่มาเยียวยา ไม่มาดูแล ตนจึงขอวิงวอนให้ทางรัฐบาลช่วย เพราะสร้างด้วยเงินงบประมาณแผ่นดิน และเป็นการสนับสนุนพลังงานทดแทนด้วยการใช้พลังงานแสงแดดตอนกลางวัน และใช้พลังงานจากไฟฟ้าตอนกลางคืน ซึ่งถือเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าให้แก่ชุมชนด้วย


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
https://mgronline.com/

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า