ครอบครัวเจ้าของอู่ซ่อมรถ จ.ตรังเหยื่อสังหารเตรียมขอกองปราบฯ ทำคดี


ครอบครัวเจ้าของอู่ซ่อมรถ อ.รัษฎา ที่ถูกสังหารโหด เตรียมยื่นขอให้กองปราบปรามเข้ามาทำคดีแทน เหตุเกรงถูกแทรกแซง กลัวไม่ปลอดภัย แม้จะมีตำรวจมาคอยดูแล 24 ชม.แล้วก็ตาม

จากกรณีที่ได้มีคนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนยิงถล่มจนทำให้นายธวัชชัย กลับขันท์ อายุ 53 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ ชาว อ.รัษฎา จ.ตรัง เสียชีวิตในรถกระบะส่วนตัว ส่วนนางอำภา กลับขันท์ อายุ 54 ปี ภรรยา และนายสมชาย สนมน้อย ลูกจ้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่ง ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 7 คน โดยมีนายจิราวุธ ศรีวิรัตน์ หรือ “โกยัง” พี่ชายของนายกเทศมนตรีตำบลคลองปาง อ.รัษฎา และเป็นเพื่อนกับผู้ตาย เป็นผู้จ้างวานนั้น
วันนี้ (13 ม.ค.) พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้กองปราบปรามได้ส่งมอบการทำงานที่เหลือมาให้ตำรวจภูธรจังหวัดตรังดำเนินการต่อ โดยใช้พนักงานสอบสวนทั้งหมด 6 คนเร่งสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด และจะนำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดตรังในวันพรุ่งนี้ ส่วนมือปืนอีก 1 คน ที่ยังหลบหนี ตำรวจกำลังเร่งไล่ล่าติดตาม
สำหรับ 2 ผู้ต้องหา ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถและคนชี้เป้า ตำรวจได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ทั้งจุดที่นัดพบกันเพื่อวางแผนและมอบหมายงาน จุดที่ขับรถไปส่งมือปืน 2 คนข้างบ้านผู้ตาย และจุดงานศพที่ผู้ตายไปเป็นประธานในพิธีสวดศพ แต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่สมัครใจและเพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องหา

ส่วนบรรยากาศที่อู่ธวัชชัยการช่าง หลังจากสิ้นงานศพของนายธวัชชัย ครอบครัวได้เปิดให้บริการซ่อมรถยนต์ตามปกติ โดยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมากและมีตำรวจสายตรวจ สภ.รัษฎาไปตั้งตู้แดงไว้หน้าบ้าน พร้อมขับรถตรวจตราความเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง โดยมี น.ส.อัมพวรรณ์ กลับขันท์ อายุ 29 ปี บุตรสาวของนายธวัชชัยเป็นคนดูแลกิจการ

ทั้งนี้ ครอบครัวยังรู้สึกกังวลและห่วงเกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากผู้ที่ก่อเหตุค่อนข้างจะเป็นผู้มีอิทธิพล จึงกลัวว่าจะมีการแทรกแซงการทำงานของตำรวจ จึงจะขอให้โอนคดีนี้ไปให้ตำรวจกองปราบปรามรับไปดำเนินการ ซึ่งจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือในเร็วๆ นี้
ส่วนนางอำภา ภรรยาของนายธวัชชัย สภาพร่างกายดีขึ้น แต่สภาพจิตในยังแย่ ผวา และหวาดกลัวมาก ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แม้ว่าบริเวณบ้านจะมีตำรวจมาแวะเวียนดูแลและติดกล้องวงจรปิดเพิ่มขึ้นแล้วก็ตาม







ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า