อดีตหนุ่มพีอาร์โรงแรมดังเมืองตรังผันตัวมาขายวาฟเฟิลไส้แตกสู้โควิด-19



อดีตหนุ่มพีอาร์โรงแรมชื่อดังเมืองตรัง ตัดสินใจใช้เงินเก็บก้อนสุดท้ายผันตัวเปิดร้านขายวาฟเฟิลไส้แตก เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว หลังลาออกจากงานเพราะโควิด-19 โดยมีผลตอบรับค่อนข้างดี

วันนี้ (21 พ.ค.) จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง รวมทั้งธุรกิจห้างร้านบางประเภทและโรงแรมต่างๆ ที่มีการสั่งปิดให้บริการ จนทำให้พนักงานต้องขาดรายได้ในช่วงสถานการณ์นี้เช่นกัน ซึ่งบางรายได้ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อขอใช้สิทธิประกันสังคม แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินจากประกันสังคม

โดยเฉพาะ นายอนุชา เสาวภาคย์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ถนนพัทลุง ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งเคยเป็นพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงแรมชื่อดังในจังหวัดตรัง ได้ตัดสินใจลาออกจากงานหลังจากมีการสั่งปิดให้บริการ เพื่อจะขอรับเงินชดเชยจากประกันสังคม แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ จึงไปหันหน้าปรึกษากับทางบ้าน ก่อนตัดสินใจใช้เงินเก็บก้อนสุดท้าย มาผันตัวเปิดร้านขายวาฟเฟิลไส้แตก บนถนนพัทลุง ตรงข้ามโรงพักเมืองตรัง หรือศาลากลางจังหวัดตรังหลังเดิม เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว และอาจจะนำไปสู่อาชีพหลักในอนาคต ซึ่งปรากฏว่ามีผลตอบรับค่อนข้างดี

นายอนุชา เสาวภาคย์ บอกว่า วาฟเฟิลที่ทำอยู่ในขณะนี้มีประมาณ 10 ไส้ เช่น ไส้เผือก ไส้ข้าวโพด ไส้ฝอยทอง ไส้ปูอัด ไส้แฮม ไส้กรอก แต่ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็คือ วาฟเฟิลไส้ลูกเกดข้าวโพด โดยขายในราคาไส้ละ 40 บาท หากต้องการเพิ่มไส้คิดเพิ่มไส้ละ 10 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาไม่สูงมาก อีกทั้งที่ตั้งของร้านก็ถือว่าเป็นทำเลที่ดีและอยู่ในเขตชุมชน ที่มีประชาชนที่ผ่านไปผ่านมามากพอสมควร ทำให้มีผลตอบรับที่ดีนับตั้งแต่เปิดตัวมาได้ไม่กี่วัน เนื่องจากเป็นขนมที่ยังไม่มีผู้ใดทำในจังหวัดตรัง จึงถือเป็นเจ้าแรก โดยเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วจะมีรายได้เข้ามาประมาณวันละ 500-600 บาท ซึ่งถือว่าพออยู่ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ และตั้งใจที่จะทำวาฟเฟิลไส้อื่นๆ ที่มีรสชาติอร่อยเพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูกค้า














    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

    แสดงความคิดเห็น

    ใหม่กว่า เก่ากว่า