วอนเปิดถนน! ชาวบ้านเดือดร้อนหนักจากประกาศปิดเมืองรอยต่อตรัง-นครศรีธรรมราช

ชาวบ้านในพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช เดือดร้อนหนักจากปัญหาการปิดตายเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด โดยเฉพาะการขนส่งข้าวของต่างๆ

วันนี้ (3 พ.ค.) ชาวบ้านพื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กับชาวบ้าน ต.บ้านนิคม อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ต้องประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนัก จากการปิดถนนเชื่อมรอยต่อระหว่าง 2 อำเภอ บริเวณสี่แยกบ้านซา ต.บางดี อ.ห้วยยอด ที่ดำเนินการตามคำสั่ง จ.ตรัง เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดยใช้มาตรการปิดช่องทางเข้าออกในพื้นที่จังหวัดตรัง โดยให้ใช้เส้นทางบกเฉพาะ 4 ด่านหลักคัดกรองเท่านั้น ส่วนเส้นทางสายรองต้องปิดทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้คนไปมาหาสู่กัน หวั่นนำเชื้อเข้าพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่ต้องใช้เส้นทางสายดังกล่าวต้องประสบปัญหาเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถเดินทางไปมาหรือใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะชาวบ้าน ม.2 ต.บ้านนิคม ที่ต้องใช้เส้นทางนี้ตลอดเวลา เนื่องจากระยะทางระหว่าง ต.บ้านนิคม กับ อ.บางขัน ไกลประมาณ 20 กม. แต่ขณะที่ อ.ห้วยยอด มีระยะทางประมาณ 10 กม.เศษ ดังนั้น ชีวิตประจำวันจึงเกี่ยวพันกับพื้นที่การเกษตร ตลาดสด โรงพยาบาล ธนาคาร รวมทั้งโรงงานรับซื้อน้ำยาง และผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่ อ.ห้วยยอด และตัวเมืองตรัง ขณะที่ชาว ต.บางดี ก็จะเข้าไปพื้นที่ ต.บ้านนิคม เนื่องจากมีพื้นที่การเกษตร สวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน จึงทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก
ทำให้ทุกวันนี้ชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่งสะพาน ซึ่งมีท่อระบายน้ำเป็นด่านกลาง ยังต้องดิ้นรนทำมาหากิน และต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการนำรถจักรยานยนต์ รถยนต์ มาไว้ฝั่งตรงข้าม เพื่อเข้าสวนกรีดยางพารา เก็บผลผลิตปาล์มน้ำมัน และเก็บพืชผักออกมาขาย บางคนต้องใช้วิธีเดินเท้าอ้อมเข้าสวนต่ออีกทอด ซึ่งเสี่ยงอันตราย และต้องยกของ สินค้า ผลผลิตเกษตร พืชผักข้ามผ่านด่านกลางสะพาน จึงต่างเรียกร้องขอให้ทาง จ.ตรัง พิจารณาเปิดเส้นทาง เพื่อจะได้ทำมาหากินและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก

โดยชาวบ้านบางรายระบุว่า พื้นที่พบเชื้อโควิด-19 ที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช นั้น อยู่ห่างจากพื้นที่ ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ไม่ต่ำกว่า 40 กม. และทุกด่านชาวบ้านใช้วิธีเดินลอดช่องเล็กๆ ผ่านด่านกลาง ขนผลผลิตยกข้ามด่านกลาง เพื่อไปทำธุระและนำมาขาย โดยชาวบ้านทั้งหมดต่างเรียกร้องขอให้เปิดเส้นทาง เพราะไม่มีประโยชน์ในการปิดเส้นทาง ขณะที่ประชาชนยังข้ามผ่านไปมาได้

ทางด้าน คุณตาจบ สุวรรณ อายุ 70 ปี ชาวหมู่ 2 ต.บ้านนิคม อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งต้องใช้วิธีทยอยตัดผลปาล์มน้ำมันแล้วนำมาโยนไว้ฝั่ง ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และใช้วิธียกขนผลปาล์มน้ำมันใส่ท้ายรถกระบะที่ชาวบ้านมาช่วยขนอีกทอด เพื่อนำไปขายในลานเท ต.บางดี ก็เรียกร้องอยากให้เปิดเส้นทาง เพราะชาวบ้าน ม.2 ต.บ้านนิคม เหมือนกับเป็นคนตรัง เพราะใช้ชีวิตประจำวันกับพื้นที่ ต.บางดี เพราะ อ.บางขัน ห่างไกลมากกว่า 20 กม. แต่ขณะที่ ต.บางดี ห่างไปแค่ไม่กี่เมตร ก็ทำธุระได้ทั้งหมด จึงเดือดร้อนหนักและขอให้ทางจังหวัดช่วยพิจารณาปัญหาของชาวบ้านด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์