โจรเย้ยกฎหมายบุกเจาะฝ้าเพดานรูฉกทรัพย์ในร้านโทรศัพท์นับ 10 เครื่อง เจ้าของช้ำเพิ่งเปิดร้านได้ 3 เดือนซ้ำร้ายยังงัดเอาเงินในกระปุกออมสินของลูกสาวไปเกลี้ยง 5 พัน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ส.ค. ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายมือถือ เลขที่ 68/15 ซอยควนขนุน ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง หลังจากเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา(8 ส.ค.) มีกลุ่มคนร้ายย่องเข้าเจาะฝ้าเพดาน ก่อนจะลงมารื้อค้นทรัพย์สิน ภายในตัวร้าน และหลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย
จากการตรวจสอบภายในห้องครัวพบว่าฝ้าเพดานถูกเจาะลงมาเป็นช่องเล็ก ขนาดเท่าตัวเด็กเล็ก ประตูหลังบ้านถูกเปิดทิ้งไว้ พงหญ้าบริเวณหลังบ้านและข้างบ้านมีร่อยรอยของคนร้าย ซึ่งใช้เป็นเส้นทางเข้าออก พบทรัพย์ที่สูญหายไปมีโทรศัพท์ยี่ห้อแอปเปิ้ล ยี่ห้อวีโว้ รวมทั้งมือถือมือสอง ร่วม 10 เครื่อง พร้อมทั้ง โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อเอซุส ที่วางไว้ในตู้โชว์สูญหายไป
ทั้งนี้คนร้ายยังได้งัดกระปุกออมสิน ซึ่งมีทั้งเศษเหรียญและธนบัตรได้เงินไปอีกจำนวนกว่า 5,000 บาท นอกจากนี้ยังคงพยายามจะขโมยโทรทัศน์ ขนาด 42 นิ้วไปด้วย แต่ไม่สามารถนำไปได้จึงตั้งกลับไว้ที่เดิม เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง ทั้งกล่องโทรศัพท์มือถือ กระปุกออมสิน และสิ่งของต่างๆที่คาดว่าคนร้ายน่าจะมีการสัมผัส ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถเก็บหลักฐานเพื่อนำไปพิสูจน์ตามขบวนการหลักหลักนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
นายบุญธรรม อินทร์ทองแก้ว อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเย็น ตนและลูกเมียได้ไปกินข้าวนอกบ้าน เมื่อเปิดประตูร้านเข้ามาถึงก็เห็นตู้ต่างๆเปิดทิ้งไว้ ก็เอะใจทันทีว่าผิดปกติแล้ว สิ่งของภายในตู้ถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ก็เดินไปดูที่หลังบ้านพบว่าประตูหลังบ้านเปิดทิ้งไว้ ฝ้าเพดานเป็นรู ตอนนั้นก็ชัดเจนแล้วว่ามีคนร้ายเข้ามาแน่นอน เมื่อตรวจดูทรัพย์สินและสินค้าก็พบว่าถูกขโมยไป และที่คับแค้นใจยิ่งกว่าคือคนร้ายยังเอาเงินสดซึ่งเป็นเงินเก็บของลูกสาวกว่า 5,000 บาท มีทั้งเศษเหรียญและธนบัตร ซึ่งเงินทั้งหมดลูกสาวเป็นคนเก็บสะสมด้วยตนเอง อดออมจากเงินที่ให้ไปใช้จ่ายโรงเรียน ซึ่งลูกสาวก็เสียใจมากเมื่อรู้ว่าถูกคนร้ายขโมยไป ตนเองก็เพิ่งมาเช่าอยู่ที่นี่และเปิดเป็นร้านได้เพียงแค่ 3 เดือน ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เพื่อนบ้านรอบข้างก็มาบอกกล่าวว่าละแวกดังกล่าวนี้ไม่เคยมีโจร หรือขโมยมาก่อน สุดท้ายก็อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับตัวคนร้ายให้ได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ทางเจ้าของบ้านได้อยู่ในระหว่างการประสานขอภาพกล้องวงจรปิดจาก ห้องพักรายวัน รวมทั้งบ้านของเพื่อนบ้าน ที่อยู่ในละแวกดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถจับภาพของกลุ่มคนร้ายไว้ได้ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากกล้องวงจรปิดที่ร้านเสียไม่สามารถบันทึกไว้ได้
เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถ จยย.เป็นยานพาหนะ ซึ่งน่าจะมาดูลาดเลาก่อนหน้านี้แล้ว และทราบทางเข้าออกของบ้าน รวมทั้งเส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี ก่อนอาศัยจังหวะที่บ้านไม่มีใครเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว.