ลูกตกเป็นทาสยาคลั่ง พกมีดอาละวาด-ทำร้ายร่างกายแม่บังเกิดเกล้า ครอบครัวร้องขอความช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางบุญ(นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาวบ้านพื้นที่ หมู่ 5 บ้านด่าน ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาจับตัวลูกชายอายุ 27 ปี บุตรชาย นำไปรักษาบำบัด หรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังสุดทนกับพฤติกรรมเสพยาเสพติด ทั้งยาบ้า กัญชา และดื่มสุราขาว จนมีอาการคลุ้มคลั่งและอาละวาดทำร้ายผู้เป็นแม่ในไส้ ญาติพี่น้อง รวมทั้งชาวบ้านในหมู่บ้านมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี โดยที่ทางตำรวจและผู้นำทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยังคงนิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ชิด และชาวบ้านญาติพี่น้องที่อยู่ในละแวกดังกล่าวอยู่กันอย่างหวาดกลัวเพราะส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงล้วน
ด้าน น.ส.อุ (นามสมมติ) หลานสะใภ้นางบุญ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากญาติก่อนทราบว่า ลูกชายนางบุญอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งและมาขอเงินจะไปซื้อยาเสพติดแต่แม่และยายไม่มีจะให้ จึงใช้มีดที่พกติดตัวข่มขู่ ที่บ้านก็มีแต่ผู้หญิงและเด็กอาศัยอยู่ ตนจึงให้ทุกคนแอบอยู่บ้านพี่สาวที่อยู่ใกล้กันก่อน เพราะตนอยู่นอกพื้นที่ ที่ผ่านมานั้นผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้รู้สึกไม่ไหวกับพฤติกรรมดังกล่าว ตนก็ไม่รู้จะต้องทำยังไง แม่ก็เป็นเพียงผู้หญิงแก่ๆ บางครั้งที่เขาอาการหนัก ก็ได้แจ้งไปยัง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และตำรวจ แต่ทางเจ้าหน้าที่คงจะเบื่อไปแล้วเพราะเป็นเช่นนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว จึงไม่เข้ามาและไม่สามารถจัดการอะไรได้
"ที่ผ่านมาเคยใช้มีดพร้าฟันและแทงผู้เป็นตาจนบาดเจ็บ ใช้มีดฟันน้องสาวแท้ๆจนบาดเจ็บเช่นกัน ซึ่งทุกครั้งแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่เจ้าหน้าที่เข้ามาก็ได้แค่บอกว่าไม่มีหลักฐานไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ หรือต้องรอให้มีคนตายขึ้นมาก่อนถึงจะมีหลักฐาน ทุกๆวันอยู่กันหวาดผวากลัวมาก คอยจ้องมองว่าเขาจะมาตอนไหน อยากให้นำตัวไปรักษาจนกว่าจะหายแล้วสามารถกลับมาอยู่บ้านได้ตามปกติ" หลานสะใภ้นางบุญ กล่าว
ด้าานางบุญ ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน ลูกชายคนก่อเหตุเป็นคนโต ตอนนี้รู้สึกหวาดระแวงและกลัวกับสิ่งที่ลูกชายกระทำ แต่ก็ต้องทนอยู่ไป ที่ผ่านมาเวลาลูกชายคลั่งชอบเดินไปทั่วบ้านและใช้มีดฟันบริเวณฝาบ้านเต็มไปหมด ครั้งแรกที่ติดยานั้นมีเพื่อนของลูก นำมาให้ลูกเสพ ก็เคยพาไปบำบัดแพทย์ให้ยามากิน แต่ลูกก็นำไปทิ้งหมด แต่ก่อนตนเองได้อาศัยอยู่กับลูกที่บ้านปูนหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านของตน กระทั่งเมื่อประมาณ 5-6 ปี ที่ผ่านมา ตนถูกลูกชายไล่ออกมาจากบ้าน ทำให้ตนต้องมาอยู่บ้านผู้เป็นแม่ซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าๆ ที่อยู่ติดกัน ที่ผ่านมาตนถูกทำร้ายมาหลายครั้งมาก ทั้งเตะและใช้ขวดแก้วซัดใส่หน้าตนจนเลือดออก แถมใช้ไม้หน้าสามตีที่แข้งของตน ไม่สามารถเดินได้อยู่หลายวัน เวลานั่งอยู่บางครั้งก็ใช้มือผลักหัวตนจนล้มลง แต่ก็ต้องทนมาตลอด
นางบุญ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำตัวไปรักษาไม่อยากให้อยู่ที่บ้านเพราะไม่สบายใจ กับสิ่งที่เขากระทำ ตนก็รู้สึกเป็นห่วงลูก ก็ยังรักลูก แต่ก็ไม่รู้ทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ เกิดมาก็สอนให้เป็นคนดี แต่เขาไม่ดีจะให้ทำอย่างไร.