ทนไม่ไหว! ชาวบ้านตรังผวาเข้าร้องสื่อช่วยเหลือหลังเจอปัญหาบ้านจมน้ำเมื่อฝนตก


  ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง เข้าร้องเรียนสื่อหลังเจอปัญหาบ้านจมน้ำ หลังมีนายทุนมาถมที่ทำให้เวลาฝนตกน้ำไม่มีทางระบาย เผยเคยร้องเรียนหลายหน่วยงานแต่ไร้การช่วยเหลือใดๆ


วันนี้ (5 ต.ค.) นางจันทรา เรืองยศ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/3 ม.4 บ้านแหลมม่วง ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า กำลังได้รับความเดือนร้อนอย่างหนักจากน้ำท่วมเข้าบ้านและมีน้ำขังในช่วงฝนตก จากแต่ก่อนไม่เคยเกิดเหตุน้ำท่วมเลย แต่กลับมีน้ำทะลักเข้าบ้านและมีน้ำขังตลอด ความสูงประมาณ 40 เซนติเมตร และเข้าท่วมทุกพื้นที่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ทำให้ต้องคอยวิดน้ำออกเป็นประจำในช่วงเวลาฝนตก

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่าเนื่องจากมีนายทุนมาถมที่ทำให้ไม่มีทางระบายน้ำ จนต้องเข้าร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม เทศบาล กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้เข้ามาช่วยดูแล แต่ยังคงไร้วี่แวว ซึ่งตอนนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงต้องเข้าร้องสื่อเพื่อขอความช่วยเหลือให้ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


โดย นางจันทรา บอกว่า น้ำไหลและท่วมเข้าบ้านทุกครั้งที่ฝนตก เนื่องจากไม่มีที่ระบายน้ำ ทำให้เก็บของไม่ทันจนเปียกหมด ตนเองได้แจ้งเรื่องไปยังหลายหน่วยงาน ซึ่งเขารับปากว่าจะเข้าช่วยเหลือแต่ก็ยังเงียบอยู่ ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมบ้านของตนเองนั้นคิดว่าคงเพราะนายทุนถมที่ แต่ไม่แน่ใจว่าเขาทำท่อระบายน้ำแบบไหน และเขาถมที่ทั้งสองฝั่ง เมื่อน้ำไม่รู้จะไปทางไหน ก็ไหลลงมาท่วมบ้านของตนเอง เวลาจะไปไหนก็กลัว ต้องเก็บข้าวของไว้ชั้นบนก่อนตลอด อย่างล่าสุดตนเองนอนหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีน้ำก็ไหลเข้าท่วมบ้านและตัวเองก็เปียกแล้ว โชคดีที่ไม่โดนไฟช็อต จนตนเองนอนที่บ้านไม่ได้ต้องย้ายไปนอนบ้านแม่ น้ำท่วมขังนานแบบนี้ตนเองก็กลัวสารพัดโรค ทั้งโรคฉี่หนูและสัตว์มีพิษ เพราะมีลูกสาววัย 6 ขวบด้วย

ส่วนบ้านของ นางสมยา ปานชาตรี อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.4 ต.บางเป้า ซึ่งมีปัญหาน้ำเข้าท่วมบ้านเช่นกัน บอกว่า หากฝนตกหนักน้ำจะไหลเข้าบ้านต้องวิดน้ำออกตลอด หรือพอน้ำท่วม ก็ต้องไปนอนที่ทำงาน และให้ลูกสาวนอนเฝ้าที่บ้านแทน

ขณะที่ นายบุญยงค์ พินทอง อายุ 54 ปี ซึ่งประกอบอาชีพเปิดร้านเชื่อมโลหะเหล็กพลาสติก ในพื้นที่ ม.4 ต.บางเป้า บอกว่า ตนเองเปิดร้านแต่ก็โดนน้ำท่วมเข้าบ้านในช่วงฝนตก ทำให้ต้องหยุดงาน ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมน่าจะมาจากท่อระบายน้ำอุดตัน แล้วก็ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งที่เป็นอย่างนี้มานานแล้วและเดือดร้อนหนักมาก โดยเฉพาะในช่วงฝนตก


นอกจากนั้น  ยังพบอีกว่า สวนปาล์มในพื้นที่ ต.บางเป้า ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันในช่วงฝนตก เพราะทำให้เกิดน้ำสะสมและท่วมขัง ทำให้ต้นปาล์มยอดเริ่มแดงและไม่ออกผลผลิต จนเจ้าของหวั่นว่าปาล์มจะยืนต้นตาย

โดย นายมนิต ศรีสุวรรณ อายุ 75 ปี ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบพื้นที่ ม.6 บ้านควนทองสีห์ ต.บางเป้า ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มของตนเองในเนื้อที่ประมาณไร่เศษ ซึ่งพบว่ามีน้ำท่วมขังและต้นปาล์มเริ่มแดง ซึ่ง นายมานิต บอกว่า เมื่อก่อนไม่เคยท่วมเลย แต่พอเขามาถมดินมากๆ จึงทำให้เกิดน้ำท่วม ทั้งนี้ได้ปลูกปาล์มไว้ทั้งหมด 50 ต้น แต่ขณะนี้ต้นเริ่มออกสีเหลืองแล้ว ครั้นจะใส่ปุ๋ยก็ไม่ได้ เพราะตั้งแต่ฝนตกก็มีน้ำขังท่วมอยู่ตลอด

ทางด้าน น.ส.ประไพศรี แหลมม่วง อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของสวนปาล์ม 4 ไร่ ในพื้นที่ ม.6 ต.บางเป้า ก็ได้นำผู้สื่อข่าวไปดูพื้นที่สวนปาล์มที่มีน้ำท่วมขังเช่นกัน โดย น.ส.ประไพศรี บอกว่า สวนปาล์มของตนเองได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้น้ำไม่เคยท่วมเลยสามารถระบายได้ทัน แต่ตอนนี้เดือดร้อนมาก หลังจากมีนายทุนมาถมดินและปิดทางระบายน้ำ ทำให้พื้นที่ตรงนี้ไม่สามารถระบายน้ำได้ ตอนนี้ก็กลัวว่าปาล์มจะเน่าตายเพราะน้ำขังนานเกินไป จึงเรียกร้องให้หน่วยงานเข้ามาแก้ไขช่วยขุดทางให้ระบายน้ำได้








ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า