เกษตรกรทุ่งค่ายโค่นยางปลูก “สละสุมาลี” นำผลผลิตขายผ่านออนไลน์รายได้งาม


  เกษตรกรชาว ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ยอมตัดใจโค่นยางพารา เพื่อนำพื้นที่มาปลูก “สละสุมาลี” นำผลผลิตขายผ่านออนไลน์ กก.ละ 70 บาท สร้างรายได้ถึงปีละ 6 หมื่นบาท พร้อมตั้งเป้าทำรายได้ให้สูงกว่ายาง 20 เท่า


นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายอำนาจ เซ่งเซี่ยง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอย่านตาขาว และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอย่านตาขาว นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่แปลงปลูก “สละสุมาลี” ตั้งแปลงอยู่ที่ 56 หมู่ 7 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นแปลงของ นายปรีชา มีสุข อายุ 47 ปี โดยเกษตรกรเจ้าของสวนยอมล้มต้นยางพารา อายุ 9 ปี จำนวน 2 ไร่ เพื่อปลูกสละสุมาลี ซึ่งเป็นอาชีพทางเลือกที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรค่อนข้างสูง อีกทั้งการปลูกสละสุมาลียังให้ผลผลิตได้ตลอดปี

โดย 1 ต้นจะให้ผลผลิต 60-70 กิโลกรัม แต่หากดูแลดีจะให้ถึง 100 กิโลกรัม และจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลังจากผสมเกสร 220 วัน (ความหวานอยู่ในช่วงที่เหมาะสมตรงตามความต้องการของตลาด) จำหน่ายกิโลกรัมละ 70 บาท มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 60,000 บาทต่อปี ในพื้นที่เพียง 2 งาน หรือครึ่งไร่ ปลูกสละได้ 17 ต้น และที่สำคัญเกษตรกรมีการจัดการสวนที่ดี ไม่มีการใช้สารเคมี มีระบบน้ำที่สามารถให้น้ำสละได้ตลอดในช่วงฤดูแล้ง มีการรักษาความชื้นบริเวณหน้าดิน โดยการใช้ฟางข้าวคลุมหน้าดินบริเวณโคนต้นสละ มีการใช้ตาข่ายเขียวพรางแสง และมีการใช้เชื้อไตรโคเดอร์มาใส่บริเวณโคนต้น เพื่อป้องกันเชื้อราสาเหตุของโรคพืชในช่วงฝน


นายปรีชา มีสุข เจ้าของแปลงปลูกสละสุมาลีทุ่งค่าย บอกว่า เนื่องจากปกติตนเองจะชอบกินสละสุมาลี และเคยซื้อตามท้องถนน ขายกิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งมีราคาแพง ก็เลยคิดอยากซื้อสละสุมาลีมาปลูกเอง ซึ่งผลผลิตที่ได้มีราคาสูงกว่ายางพารา แต่ในช่วงแรกได้ลองเอามาปลูกไว้ใต้ต้นยางพารา ปรากฏว่าทำให้ต้นเล็ก เลยยอมตัดใจโค่นต้นยางพารา เพราะสละจะชอบที่โล่งแจ้ง โดยเริ่มปลูกตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2559 ตอนนี้ปลูกมาระยะเวลา 4 ปี 3 เดือน ผลผลิตเริ่มออกให้เห็นในช่วง 3 ปี จำนวน 15 ต้น (ครึ่งไร่) ทำให้ตนเองมีรายได้ถึง 60,000 บาท ทั้งนี้จะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการดูแล ผสมเกสรทุกวัน ใส่ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง และตัดแต่งกิ่งเดือนละ 2 วัน

โดยผลผลิตของสละสุมาลีจะมีให้ตลอดทั้งปี ยกเว้นในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ผลผลิตจะมีน้อยหน่อย เพราะเข้าช่วงหน้าแล้ง สำหรับดินในการปลูกสละจะปลูกได้ทุกดิน ทุกพื้นที่ ยกเว้นที่จมน้ำ หรือที่ลาดเอียงมากๆ แต่ที่ชอบที่สุด คือ พื้นที่ที่เป็นดินทราย แต่หากเป็นพื้นที่ดินเหนียว ต้องใส่ใจการดูแลค่อนข้างมาก สำหรับช่องทางการจำหน่าย ตนเองจะโพสต์ขายผ่านสื่อออนไลน์ ในราคากิโลกรัมละ 70 บาท และผลผลิตมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งตนเองได้ตั้งเป้าไว้ไร่ละ 2 แสนบาท หรือทำรายได้สูงกว่ายางพารา 20 เท่า ทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจจะเข้ามาศึกษาเรียนรู้ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก “ปรีชา มีสุข” หรือโทร.08-9777-1864

นายอำนาจ เซ่งเซี่ยง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอย่านตาขาว กล่าวว่า เกษตรกรที่ปลูกสละ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องทะลายที่วางบนดิน และนำมาแขวนหัก เนื่องจากผูกที่งวง จากนั้นได้แนะนำให้มาผูกที่ตัวทะลายเลยจะได้ไม่หัก และพบว่าในช่วงหน้าฝน ทะลายจะมีอาการเน่า ได้นำการป้องกันกำจัดเชื้อรา โดยนำเชื้อราไตรโคเดอร์มา ทำให้การระบาดเชื้อราต่างๆ ลดลงได้เยอะ และทางสำนักงานเกษตรอำเภอได้รวมกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกสละสุมาลี มาทำเป็นเกษตรแปลงใหญ่ที่จะทำโครงการในปี 2565 มีสมาชิกทั้งหมด 35 ราย ในพื้นที่ ต.ทุ่งค่าย ประมาณ 45 ไร่










    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

    แสดงความคิดเห็น

    ใหม่กว่า เก่ากว่า