“ตรัง” เน้นสวมหน้ากากตลอดเวลาแม้ในครอบครัวเดียวกัน หลังพบติดโควิด-19 เพิ่มต่อเนื่อง


 พบผู้ป่วยอีก 12 ราย ใน 5 อำเภอ ทำให้ยอดสะสม 227 รายแล้ว เผยล่าสุดมีบุคคลในครอบครัวติดเชื้อกันเองสูงขึ้น ทำให้ต้องเน้นมาตรการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หรือแยกกันกินอาหาร

วันนี้ (6 พ.ค.) นายตุลกานต์ มักคุ้น โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง พร้อมด้วย พญ.ทิพยลดา บุญชัย รองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง ร่วมแถลงว่า วันนี้จังหวัดตรังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 12 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมในพื้นที่จังหวัดตรัง สำหรับการระบาดระลอกเดือนเมษายน 2564 จำนวน 227 รายแล้ว โดยมีรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่ ดังนี้ อำเภอกันตัง 5 ราย อำเภอรัษฎา 3 ราย อำเภอเมืองตรัง 2 ราย อำเภอย่านตาขาว 1 ราย และอำเภอปะเหลียน 1 ราย

“จะเห็นได้ว่าบุคคลในครอบครัวตรวจพบเชื้อ 9 ราย จาก 12 ราย คิดเป็น 75% จึงขอเน้นย้ำมาตรการการอยู่ร่วมกันที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หรือแยกกันรับประทานอาหาร”

ขณะที่มาตรการของทางจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ประกาศให้มีการ Work from Home จากเป้าหมายเดิม 50% ปัจจุบันพยายามเพิ่มขึ้นในส่วนราชการที่ไม่กระทบต่อพี่น้องประชาชนได้ให้ 70-90% เพื่อที่ข้าราชการและผู้ที่ปฏิบัติงานในห้างร้าน บริษัทจะได้ทำงาน หรือรับประทานอาหารร่วมกันน้อยลง โอกาสที่จะเกิดคลัสเตอร์เหล่านี้ก็จะยิ่งลดลง รวมทั้งใช้มาตรการกักตัวที่บ้านสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อลดจำนวนคลัสเตอร์ที่จะติดเชื้อให้ลดลง







ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการ ออนไลน์


 

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า