“ส.ส.สาทิตย์” ระบุเหตุลอบยิงแกนนำเรียกร้องที่ดินทำกินสวนปาล์มหมดสัมปทานใน อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เกิดจากความหย่อนยานของหน่วยงานรัฐที่ปล่อยให้กลุ่มอิทธิพลเข้าไปครอบครองพื้นที่
วันนี้ (5 พ.ค.) จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกยิง นายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือทนายเหว่า อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 4 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเป็นแกนนำเรียกร้องสิทธิที่ดินทำกินสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน เนื้อที่ 638 ไร่ ใน อ.วังวิเศษ ให้แก่ชาวบ้านที่ยากไร้ โดยเสียชีวิตกลางสวนยางพารา หมู่ที่ 10 ต.วังมะปราง ใกล้สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานดังกล่าว สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้าที่บริเวณหน้าท้อง 1 นัด แขนขวา 1 นัด และบริเวณเท้าทั้ง 2 ข้างรวม 4 นัด โดยเหตุเกิดเมื่อเช้าวานนี้ (4 พ.ค.) ขณะที่ผู้ตายเข้าสวนยาง พร้อมมีดพร้า 1 เล่ม เพื่อเข้าไปทำสวน
โดยสาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่าเกิดจากปัญหาการขัดขวางกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้าไปครอบครองสวนปาล์มน้ำมัน เพราะที่ผ่านมา ผู้ตายเป็นแกนนำคนสำคัญร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด กองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ในพื้นที่ และส่วนกลาง รวมทั้งร้องเรียนคณะกรรมาธิการที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้าไปครอบครองเก็บผลประโยชน์ในสวนปาล์มน้ำมันดังกล่าว และความรุนแรงในพื้นที่เกิดขึ้นมายาวนานตลอด 1 ปีที่มีการร้องเรียน เช่น ชาวบ้านที่เข้าไปขโมยเก็บผลปาล์มถูกกลุ่มอิทธิพลลอบยิง ถูกตัดฟันต้น ซึ่งทุกฝ่ายในจังหวัดรู้ปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงในพื้นที่มาโดยตลอดนั้น
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนเองเห็นว่ากรณีนี้อุกอาจมาก โดยในส่วนของผู้ตายกับตนเองได้รู้จักกันมา 2-3 ปีแล้ว เพราะว่าเขาได้มาร้องเรียน ที่สำคัญคือ ตนเองกับคณะกรรมาธิการได้เคยลงพื้นที่นี้ไปแล้ว และชาวบ้านก็ได้เล่าให้ฟังถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่นั่น เพราะในเมื่อสวนป่าหมดสัญญาการเช่ากับกรมป่าไม้ โดยหลักแล้วกรมป่าไม้จะต้องประกาศให้ผู้ที่ครอบครองอยู่ด้วยวิธีใดก็ตามออกไปก่อน และค่อยเข้ามาจัดการพื้นที่ แต่ปรากฏว่ายังมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้าไปทำประโยชน์ ซึ่งในวันที่กรรมาธิการไปก็ได้ขอให้ทางกรมป่าไม้เข้มงวดกับเรื่องนี้และดำเนินการ
ที่ผ่านมา ทราบว่ามีการดำเนินการบางส่วนเท่านั้น แต่ก็ยังปล่อยให้มีกลุ่มผลประโยชน์เข้าไปครอบครองพื้นที่อยู่ ซึ่งคาดหมายอยู่แล้วว่าจะเกิดความขัดแย้งกัน เพราะกลุ่มชาวบ้านที่เข้าไปเก็บลูกปาล์มน้ำมันก็เคยถูกยิงข่มขู่กันมาแล้ว หลังจากนั้น ได้มีความพยายามที่จะขอที่ดินที่เป็นที่หมดสัญญาไปจัดสรรให้ชาวบ้านที่ยากจนได้ทำกินในรูปแบบ คทช. (คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) ซึ่งทนายเหว่า เป็นแกนนำคนหนึ่งร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งตนเองไปรับทราบเรื่องนี้ แล้วเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยประสานงานให้ทราบว่าทางเขตป่าไม้ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และเตรียมการที่จะลงรังวัดที่ดิน เพราะมีการประชุมร่วมกับชาวบ้านไปแล้ว
“เพราะฉะนั้นตนเองคิดว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา จากการไม่เด็ดขาด ไม่เอาจริงเอาจังของทั้งกรมป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน จ.ตรัง จึงได้โทรศัพท์ไปประสานงานยังคณะทำงานผู้ใกล้ชิดของรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้คุยโทรศัพท์กับผู้ใหญ่ภายในจังหวัด โดยจะต้องดำเนินการจับกุมคนร้ายรายนี้ ซึ่งตนเองเชื่อในฝีมือตำรวจว่า ถ้าทำจริงจะทำได้ แล้วเรื่องนี้อย่าปล่อยปละละเลย เพราะการทำแบบนี้เหมือนกับหยามกฎหมายของบ้านเมือง ส่วนกรมป่าไม้ก็ต้องส่งชุดเฉพาะกิจจะต้องเข้าไปควบคุมพื้นที่ และผลักดันกลุ่มผลประโยชน์ออกไป เพราะตนเองเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่" นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว