เจ้าของปั๊มนาโยงโพสต์เตือน 2 หนุ่มสาวขับเก๋งเติมน้ำมันแต่ไม่จ่ายเงิน ก่อนขับออกไปหน้าตาเฉย


  เจ้าของปั๊ม ปตท.นาโยงเหนือ จ.ตรัง ออกมาโพสต์คลิปพร้อมข้อความ เหตุการณ์ที่ 2 หนุ่มสาวแต่งตัวดีคล้ายพนักงานบริษัท ขับเก๋งมาเติมน้ำมันแต่กลับไม่จ่ายตังค์ แล้วขับรถออกไปหน้าตาเฉย


วันนี้ (30 เม.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kessitthanat Suanin (KD) ซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.นาโยงเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม สายตรัง-พัทลุง บริเวณ ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า “พนักงานบริษัทมาเติมน้ำมัน 580 บาท ไม่จ่ายตังค์ ชิ่งออกไปเฉยๆ ไม่จ่ายตังค์แต่งตัวดูดี บอกพนักงานว่า จ่ายผ่าน QR Code นะคะ พนักงานเดินกลับมาที่ตู้แคชเชียร์เพื่อปรินต์สลิป QR Code เพื่อให้ลูกค้า Scan QR Code ลูกค้าได้ขับรถออกไปทันที และหายออกไปเลย แบบนี้ได้ด้วยอ่อ เมื่อวันนี้ 29/4/64 เวลา 10.46 ป้ายทะเบียน ขว 9704 รุ่น mitsubishi สีแดง”

ทั้งนี้ หากดูจากคลิปดังกล่าวจะเห็นพฤติกรรมของชายหญิงคู่หนึ่ง อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งถูกระบุว่า เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งเพราะมีบัตรแขวนคอไว้ด้วย โดยได้ขับรถเก๋งมาเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.นาโยงเหนือ แล้วบอกพนักงานให้เติมน้ำมันเต็มถัง จากนั้นฝ่ายชายซึ่งสวมเสื้อกางเกงชุดสีดำ ได้เดินลงจากรถไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่ฝ่ายหญิงซึ่งสวมเสื้อกระโปรงชุดสีชมพู ยังคงนั่งอยู่ที่คนขับ กระทั่งเมื่อฝ่ายชายเดินกลับมาที่รถ ฝ่ายหญิงจึงได้เปิดประตูรถแล้วเปลี่ยนไปนั่งข้างคนขับแทน ก่อนที่ฝ่ายชายจะเดินกลับมานั่งขับรถเอง

ต่อมา พนักงานปั๊มน้ำมันได้แจ้งว่า มีค่าใช้จ่ายจำนวน 580 บาท ซึ่งชายหญิงคู่นี้บอกว่าขอจ่ายเงินผ่าน QR Code พนักงานจึงเดินไปที่ตู้แคชเชียร์เพื่อปรินต์สลิปเอามาให้ แต่ปรากฏว่า จู่ๆ ฝ่ายชายก็ขับรถออกไปเลย โดยที่ยังไม่ได้จ่ายค่าน้ำมัน และมีพนักงานปั๊มพยายามวิ่งตามไป ซึ่งตอนแรกต่างก็คิดว่าชายหญิงทั้งคู่คงไปแวะจอดรถที่ร้านสะดวกซื้อใกล้กัน แต่ที่ไหนได้กลับบึ่งลงออกไปเลย จึงได้นำภาพวงจรปิดออกมาเผยแพร่เพื่อให้ช่วยกันตามหาชายหญิงคู่นี้มาจ่ายค่าน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kessitthanat Suanin (KD) ได้เผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป มีผู้มาแสดงความคิดเป็นเป็นจำนวนมาก เช่น "เห็นออกข่าวที่กระบี่หลายครั้งมาก ผุดมาตรังละ" "แชร์ให้ออกข่าวค่ำนี้ไปเลยครับ เอาให้ได้ออกข่าวไปเลย พี่เขาอยากดัง 55555++" "ช่างกล้า จัดสักชุด" หรือ "เค้าอาจจะลืมไหมคะ บางทีคุยโทรศัพท์" เป็นต้น












      ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์

    แสดงความคิดเห็น

    ใหม่กว่า เก่ากว่า