ผบช.ภาค 9 ลงตรังเรียกประชุมคดีฆ่าทนายเรียกร้องที่ดินทำกิน ยืนยันจับคนร้ายได้แน่นอน


 ผบช.ภ.9 ลงพื้นที่ จ.ตรัง ประชุมติดตามคดียิงทนายความแกนนำชาวบ้านเรียกร้องที่ดินทำกินในสวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานกับกรมป่าไม้ ระบุมีความคืบหน้าไปมาก ยืนยันจับคนร้ายได้แน่นอน


วันนี้ (11 พ.ค.) จากกรณีที่คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง นายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือทนายเหว่า อายุ 54 ปี อดีตทนายความแกนนำชาวบ้านเรียกร้องที่ดินทำกินในสวนปาล์มน้ำมันที่บริษัทเอกชนหมดอายุสัมปทานกับกรมป่าไม้ เพื่อขอจัดสรรให้ชาวบ้านได้เข้าทำกิน เสียชีวิตกลางสวนยางพาราของตนเองในพื้นที่บ้านบางพระ หมู่ที่ 10 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่สนามบินตรัง เพื่อติดตามเร่งรัดคดีดังกล่าว โดยได้เรียกประชุม พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รองผู้บังคับการ ชุดสืบสวน ทั้งชุดสืบสวนจังหวัดตรัง ชุดสืบสวนภาค 9 และตำรวจกองปราบปราม พร้อมทั้งยังมีการเรียกประชุมกลุ่มย่อยเฉพาะผู้บังคับการสืบสวนภาค 9 กองปราบปราม และผู้กำกับการสืบสวน ภ.จว.ตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนทั้งหมดก่อนภายในห้องรับรอง จากนั้นเข้าห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เพื่อเรียกประชุมชุดทำงานสืบสวนชุดใหญ่ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที


โดย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกชุดสืบสวนกับชุดสอบสวนเพื่อมารับฟังความก้าวหน้าในการทำคดี หลังจากที่ได้แบ่งงานกันไปทำ ซึ่งมีทั้งชุดสืบสวนของกองปราบ ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนจังหวัด โดยพบว่าข้อมูลยังแยกกันจึงได้เรียกประชุมพร้อมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและดูความคืบหน้าของแต่ละชุด พบว่าคดีมีความคืบหน้าพอสมควร ในส่วนของการสอบสวนตอนนี้ได้สั่งโอนสำนวนจากโรงพักมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และได้มอบหมายให้รองผู้การฯ เป็นคนรับผิดชอบ ทั้งนี้ เพื่อความสบายใจของญาติผู้เสียหายด้วย ในส่วนของพยานนั้นตอนนี้ยังมีไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าเป็นทางตัน ไม่รู้ตัวเลยไม่ใช่ แต่มีเข้ามาและยังไปได้เรื่อยๆ ยังไม่จบยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน

นอกจากนั้น ยังต้องรอพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งพยานหลักฐานทางเทคโนโลยีที่ยังออกมาไม่ครบ รวมทั้งพยานบุคคลต่างๆ ซึ่งตอนนี้พยายามเร่งรัดให้กระชับขึ้น ซึ่งในตอนนี้มีพยานหลายอย่างที่ชุดสืบสวนได้มา แต่ว่ายังไม่ได้เข้าลงบันทึกในสำนวน แต่พยายามเร่งรัดอยู่ ซึ่งตอนนี้มีความคืบหน้าไปเยอะ

ในส่วนของประเด็นยังเป็นประเด็นเดิมคือ ขัดแย้งผลประโยชน์ในสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่นๆ สำหรับอาวุธปืนได้หัวกระสุนมาอยู่แล้ว น่าจะเป็นปืนลูกโม่ ขณะที่คนร้ายคาดว่าเป็นผู้รับงาน ซึ่งตอนนี้มีพยานหลักฐานเข้ามาเรื่อยๆ ไม่มีแรงกดดันจากกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ เพราะร่วมกันทำงานหลายฝ่าย มั่นใจว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้แน่นอน







ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า