ถือเป็นปีทองของชาวสวนปาล์ม หลังราคาพุ่ง กก.ละกว่า 8 บาท จนลานเทต่างต้องแย่งกันซื้อ ทำให้ยิ้มได้ยามเศรษฐกิจถดถอยจากโควิด-19 แต่หวั่นมาตรการรัฐ และสหภาพยุโรปจะส่งผลกระทบในอนาคต
ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันใน จ.ตรัง ต่างสุดแสนดีใจ หลังราคาปาล์มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งปีนี้ โดยล่าสุดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 8 บาทเศษ สร้างความดีใจให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักสำคัญของภาคใต้ที่ยังมีราคาค่อนข้างดีอยู่ในขณะนี้ ยามที่เศรษฐกิจโดยภาพรวมถดถอยจากสถานการณ์โควิด-19 จนทำให้ลานเทต่างแย่งกันซื้อผลผลิตปาล์ม ซึ่งแตกต่างจากราคายางพาราที่ขณะนี้ก็ยังตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 40 บาทเศษเท่านั้น
นายธวัช จิตรชวาล เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า จากการเก็บรวมรวบข้อมูลนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน ปาล์มจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 6.38 บาท โดยเฉพาะราคาปาล์มเกรดพรีเมียม เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 20% มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 8.50 บาท ทำให้ขณะนี้ถือเป็นเวลาทองของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยเหตุผลที่ทำให้ราคาปาล์มสูงขึ้นนั้นมาจากสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้ผลผลิตปาล์มในประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศใกล้เคียงชะงัก ตัดและส่งออกไม่ได้
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผลผลิตจากไทยสามารถส่งออกไปประเทศจีน และอินเดียได้มากขึ้น และสถานการณ์ปาล์มในประเทศเองก็มีผลผลิตแค่พอใช้ ทำให้มีจุดแข็งเกิดขึ้นในตลาดปาล์มของไทย ประกอบกับก่อนหน้านี้ชาวสวนปาล์มมีการผลักดันให้รัฐบาลแก้ไข และช่วยเหลือในหลายเรื่อง เช่น เรื่องการประกันราคาปาล์ม การนำน้ำมันปาล์มไปใช้ในโรงไฟฟ้า หรือผลิตเป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น รวมทั้งติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันดิบในทุกโรงงาน เพื่อป้องกันลักลอบการนำเข้า
ดังนั้น จึงส่งผลให้ผลผลิตปาล์ม และความต้องการใช้ปาล์มในประเทศไทยเกิดความสมดุล ราคาจึงดีขึ้นตามลำดับ แต่คาดว่าราคาจะปรับขึ้นหลังจากนี้อีกไม่มาก เพราะเท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คือราคา 8 บาทกว่าต่อกิโลกรัม ถือว่าสูงอยู่แล้ว และตนยังเชื่อว่าราคาปาล์มจะสูงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ หรือไม่ก็ถึงปีหน้า จนกว่าสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นปกติ ซึ่งต้องจับตาดูต่อไปว่าราคาจะเป็นอย่างไร แต่หวั่นมาตรการรัฐที่เตรียมจะปรับลดการใช้น้ำมันบี 10 ซึ่งทำจากน้ำมันปาล์ม มาเป็นน้ำมันบี 6 จะทำให้กระทบชาวสวน
นอกจากนั้น การที่กลุ่มประเทศยุโรปประกาศว่าในปี 2023 จะมีการบังคับใช้น้ำมันยูโรไฟส์ คือน้ำมันที่ไม่มีโบโอดีเซลผสมอยู่เลย ซึ่งจะมีผลกระทบมาถึงเครื่องยนต์ต่างๆ ที่ต้องผลิตเพื่อรองรับการใช้น้ำมันชนิดนี้ด้วย โดยหากประเทศไทยไม่ยอมทำตาม อาจจะถูกกลุ่มประเทศยุโรปกลั่นแกล้งได้ เหมือนอย่างเช่นที่เคยเจอปัญหามาแล้ว ทั้งเรื่องการทำประมง หรือการใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ด้าน น.ส.สายฤทัย นวลแก้ว อายุ 28 ปี เจ้าของลานเทในพื้นที่ ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า ล่าสุดราคาปาล์มใหญ่ อยู่ที่กิโลกรัมละ 8 บาทเศษ ส่วนปาล์มเล็ก ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 7.9 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีมากในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้ลานเทรับซื้อปาล์มต้องแย่งกันซื้อผลผลิต แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามราคาจากโรงงานปาล์มเป็นหลัก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
Tags
ข่าวเมืองตรัง