ดีเจเมืองตรังตกงานช่วงโควิด-19 หันมาไลฟ์ขายเครื่องสำอาง แต่ถูกโกงสูญเงินนับแสน

 คู่รักดีเจและเอ็มซีตกงานช่วงโควิด-19 หันมาไลฟ์สดขายเครื่องสำอางออนไลน์ แต่กลับถูกโกงสินค้าที่สั่งไปเสียเงินกว่า 1 แสนบาท รวมทั้งเครือข่ายสูญกว่า 2 ล้านบาท หอบหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดี

วันนี้ (8 ต.ค.) น.ส.ณฐพร หนูช่วย หรือน้องอาย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/87 ซ.พัทลุง 7 ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง อดีตดีเจสาวสวย ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดอาชีพดีเจ หันมาไลฟ์สดขายเครื่องสำอางผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งมียอดคนติดตามถึง 30,000 คน พร้อมด้วยแฟนหนุ่ม ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองตรัง หลังถูกโกงเงินกว่า 100,000 บาท จากการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและครีมจากเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ตัว’ว แอล’ล” ซึ่งสั่งซื้อของไปแต่กลับไม่ได้รับสินค้า พร้อมกับข้อความที่บ่ายเบี่ยงจะคืนเงินให้

โดยสั่งซื้อกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้มาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งในช่วงแรกได้รับสินค้าอย่างดี แต่ในรอบล่าสุดได้สั่งสินค้าตามปกติ พร้อมโอนเงินไปให้จำนวน 101,020 บาท จนถึงทุกวันนี้ยังไม่ได้รับสินค้า และในการสนทนากันทางผู้เสียหายได้ขอบัตรประชาชนเพื่อที่จะเข้าแจ้งความ ซึ่งได้รับภาพบัตรประชาชนเป็นของ น.ส.ดาราวดี สายสมบัติ อายุ 28 ปี ที่อยู่ ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ดังนั้น น.ส.ณฐพร พร้อมด้วยแฟนหนุ่มจึงได้นำหลักฐานและเอกสารทั้งหมดเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี


น.ส.ณฐพร หรือน้องอาย ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า ตนและแฟนต้องหยุดทำงานดีเจและงาน MC ตั้งแต่มีสถานการณ์โรคโควิด-19 จึงหันมาขายของออนไลน์และไลฟ์สดขายเครื่องสำอางออนไลน์ โดยสั่งของโดยตรงกับเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว โดยช่วงแรกได้รับของที่สั่งซื้อตามปกติ แต่เมื่อมียอดขายยอดสั่งซื้อมากขึ้น แม่ค้ารายนี้กลับบ่ายเบี่ยงไม่ส่งของ ตนได้ทวงเงินคืนหลายครั้งแต่ไม่ได้คืน และจากการสอบถามเพื่อนร่วมเครือข่ายขายของออนไลน์ พบว่า หลายคนถูกโกงเช่นกัน โดยแต่ละรายถูกโกงตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือรวมประมาณ 2 ล้านบาท

ดังนั้น จึงฝากถึงแม่ค้าออนไลน์หรือลูกค้าออนไลน์ที่สั่งซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ให้ระมัดระวัง แม้ขนาดตนเคยสั่งสินค้าเป็นประจำในราคาหลักแสนก็ยังโดนโกงได้ จึงออกมาแจ้งความเพื่อเตือนภัยไปยังคนอื่น และตนอยากให้แต่ละ สภ. มีตำรวจไอที เพื่อบริการประชาชนในคดีเกี่ยวกับออนไลน์หรือโซเชียลต่างๆ เพราะในปัจจุบันมีการทำผิดลักษณะนี้จำนวนมาก









    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

     

    แสดงความคิดเห็น

    ใหม่กว่า เก่ากว่า