สธ. เผยหลักเกณฑ์ 5 ข้อ ในการรับผู้ป่วยโควิด 19 เข้ารักษาที่โรงพยาบาล รวมถึงการจ่ายเงินประกัน ถ้าไม่เข้าข่ายตามนี้ เบิกประกันไม่ได้ พร้อมปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ ไม่ต้องตรวจ RT-PCR รอบ 2 ใช้ ATK แทน
ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับหรับการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ล่าสุดในวันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2565) พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ทั้งในและจากต่างประเทศ จำนวน 21,232 ราย หากรวมผลตรวจ ATK อีกจำนวน 16,890 ราย จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อมีตัวเลขสูงถึง 38,122 ราย ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบปี 2565 จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นนี้เอง ทำให้ประชาชนเกิดความกังวลในเรื่องของการรักษาหากเจ็บป่วยขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเตียงรองรับผู้ป่วยที่อาจจะไม่เพียงพอ หรือประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีการปรับเกณฑ์ใหม่ที่อาจทำให้ผู้ติดเชื้อไม่ได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลถ้าไม่เข้าข่าย 1 ใน 5 ข้อนี้ ได้แก่
1. มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ระยะเวลานาน 24 ชั่วโมง
3. Oxygen Saturation หรือความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด น้อยกว่า 94%
4. โรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตามดุลยพินิจของแพทย์
5. ในเด็ก หากมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือกินอาหารน้อยลง
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวยังสัมพันธ์ไปถึงประกันสุขภาพอีกด้วย ถ้าไม่มีอาการ 1 ใน 5 ข้อดังกล่าวนี้ และเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนก็ต้องจ่ายเงินเอง เบิกประกันไม่ได้
นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ยังได้ปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ระบุว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ยกเลิกการตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 ของการกักตัว โดยให้ตรวจแบบ ATK และให้รายงานกลับมาแทน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป
ส่วนมาตรการเปิดภาคเรียนและการป้องกันในสถานศึกษา ทั้งโรงเรียนประจำ โรงเรียนแบบไป-กลับ และกรณีมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หรือติดเชื้อในสถานที่สอบ มีรายละเอียดดังนี้
โรงเรียนประจำ
กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ
- เรียน on site ตามปกติ สังเกตอาการ และประเมิน TST
กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
- จัดการเรียน การสอน ปฏิบัติงาน ทำกิจกรรม ใน Quarantine zone ตามแนวทาง Sand box safety zone in school เป็นเวลา 7 วัน และให้ติดตามสังเกตอาการอีก 3 วัน
- การตรวจคัดกรองหาเชื้อ ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที และให้ตรวจครั้งที่ 1 ในวันที่ 5-6 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อและตรวจครั้งสุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ
- สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน
กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อ
- พิจารณาร่วมกับ หน่วยบริการสาธารณสุข หรือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จัดทำ school isolation ตามแนวทาง Sand box safety zone
- สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม เน้นการระบายอากาศ และกำกับติดตาม มาตรการส่วนบุคคลขั้นสูงสุด
โรงเรียนไป - กลับ
กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ
- เรียน on site ตามปกติ สังเกตอาการ และประเมิน TST
กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
- แยกกักตัวที่บ้าน หรือ สถานที่ตามคำแนะนำของหน่วยบริการสาธารณสุข เป็นเวลา 7 วัน และให้ติดตามสังเกตอาการอีก 3 วัน
- การตรวจคัดกรองหาเชื้อ ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที และให้ตรวจครั้งที่1 ในวันที่ 5-6 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ และตรวจครั้งสุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ
- สถานศึกษา จัดการเรียนการสอน ที่เหมาะสม และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน
กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้ติดเชื้อ
- ปฏิบัติตามมาตรการ การรักษา ของกระทรวงสาธารณสุข
- พิจารณาจัดทำ School Isolation ตามความเหมาะสม โดยคณะกรรมการโรงเรียน หน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครอง ชุมชนพิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบ และปฏิบัติตามมาตรการ SSS
- สถานศึกษาจัดรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม โดยเฉพาะ กลุ่มที่ไม่มีอาการ
สถานที่จัดสอบ
ประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน ในการคัดกรอง และให้คำแนะนำด้านสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดจัด ให้มีพื้นที่แยกสำหรับจัดการสอบเป็นสัดส่วน แยกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลุ่มผู้ติดเชื้อ เน้นการระบายอากาศที่ดี จัดที่นั่งสอบมีระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร
ผู้เข้าสอบ
- เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือ อาการเล็กน้อย หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
- ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือก่อนและหลังการเข้าสอบ งดการพูดคุย เว้นระยะห่าง
- การเดินทางไปสนามสอบโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือประสานหน่วยสถานที่สอบ หน่วยบริการสาธารณสุขกรณีไม่มีรถยนต์ส่วนตัว
ผู้คุมสอบ
- ปฏิบัติการคุมสอบตามมาตรฐานการป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุข เช่น การใส่หน้ากากอนามัย ใช้เวลาในการคุมสอบในห้องสอบให้น้อยที่สุด รวมถึงการวางแผนจัดการสอบให้เหมาะสม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 , สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว