ตร.สวาทเมายิงโหดตาย 1 เจ็บ 2 คาผับดังเมืองตรัง

ราตรีเลือด "จ่าเบิร์ด" ตร.สวาทเมายิงโหดตาย 1 เจ็บ 2 คาผับดังเมืองตรัง



‘จ่าเบิร์ด’ ตำรวจหน่วยสวาทศรีตรัง เมาหนัก มีเรื่องกับโต๊ะข้างๆ ชักปืนยิงใส่กว่าสิบนัด ตาย 1 เจ็บ 2 ในผับดังเมืองตรัง เหตุเขม่นหน้าแล้วไปถีบเก้าอี้ผู้ตาย เลยโดนผลัก ส่วนมือยิงหนีไปได้

เมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 25 ต.ค. 65 ร.ต.อ.เอกลักษณ์ ศักดิ์ชัยนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย และมีผู้บาดเจ็บ ภายในสถานบันเทิงชื่อ คันทรี่โฮม ตั้งอยู่เลขที่ 205 หมู่ 4 ถ.พัทลุง ต.บ้านโพธิ์ (ตรงถนนทางเข้า บขส.ตรัง) หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.(สืบสวน) พ.ต.ท.อนุชัย สวยงาม รอง ผกก.(สอบสวน) กำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง ก่อนแจ้งประสานไปยัง ตร.พิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง หน่วยกู้ชีพ รพ.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง รุดเดินทางไปตรวจสอบ



ในที่เกิดเหตุ ซึ่งยังอยู่ในช่วงเวลาที่ผับยังเปิดให้บริการ พบลูกค้าจำนวนมากรวมทั้งพนักงานในร้านต่างแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณพื้นภายในร้านใกล้กับโต๊ะ พบร่างของนายจิตกร คงจันทร์ หรือขาว อายุ 32 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เป็นคนสนิทนักการเมืองท้องถิ่น และบุคคลมีชื่อเสียงของ จ.ตรัง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. เข้าที่หลังศีรษะจำนวน 2 นัด กระสุนทะลุปาก สะบักหลังซ้าย 3 นัด ชายโครงขวา 1 นัด ต้นแขนขวา 3 นัด รวม 9 นัด สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด

ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิตมาด้วยกัน ทราบชื่อ คือ นายเอกพจน์ เพ็ชรรัตน์ หรือ ต้อม อายุ 34 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนจากปืนกระบอกเดียวกันเข้าที่สะโพกซ้าย 1 นัด ข้อเท้าซ้าย 1 นัด และผู้บาดเจ็บไม่ทราบชื่ออีก 1 ราย ถูกลูกหลงคมกระสุนเจาะเข้าบริเวณข้อศอกซ้าย 1 นัด ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย เร่งช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นรีบนำผู้บาดเจ็บ ส่งรักษาตัวที่ รพ.ตรัง เป็นการด่วน



ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 11 ปลอก ตกอยู่บนพื้น หัวกระสุนจำนวน 1 หัว และลูกกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ใช้งานอีก 1 นัด ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุทางพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือการ์ด ของร้าน ได้แย่งจากคนร้ายไว้ได้ เป็นอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. 1 กระบอก ภายในแม็กกาซีนยังบรรจุลูกกระสุนหลงเหลืออยู่จำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน ในเบื้องต้น ทราบว่า กลุ่มผู้เสียชีวิตเดินทางมานั่งดื่มกินกันช่วงเที่ยงคืน จำนวน 3 คน ที่โต๊ะหมายเลข 20 โดยมีนายจิตกร หรือขาว ผู้ตาย นายเอกพจน์ หรือต้อม ผู้บาดเจ็บ และ นายวุฒิชัย คงแป้น หรือเด่น อายุ 42 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ คือ จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง มานั่งดื่มกินพร้อมกับเพื่อนซึ่งเป็นตำรวจด้วยกัน รวม 2 นาย ที่โต๊ะหมายเลข 23 โดยที่ตำรวจทั้ง 2 ราย เป็นอดีตการ์ดของทางร้าน เพิ่งลาออกจากร้านไปได้ประมาณ 1 เดือน มานั่งดื่มกินกันช่วงประมาณ 3 ทุ่ม ก่อนจะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทำให้การ์ดของทางร้านได้เข้าล็อกตัวผู้ก่อเหตุและยื้อแย่งอาวุธปืนจากมือยิงมาได้ ทำให้มือยิงและเพื่อนตำรวจด้วยกันวิ่งออกจากร้านและขับรถหลบหนีไป โดยที่ทั้งสองฝ่ายเป็นลูกค้าประจำของทางร้าน



ด้าน น.ส.แอน (นามสมมติ) พนักงานเสิร์ฟของร้าน กล่าวว่า ตำรวจทั้ง 2 นาย มานั่งดื่มกินและเมาหนักมาก คาดว่าดื่มกินมาจากที่อื่นแล้ว ก่อนที่มือยิงจะถีบเก้าอี้กระเด็นไปโดนผู้ตายทำให้ผู้ตายโมโห ลุกขึ้นไปผลักมือยิงออก ก่อนผู้ตายจะเดินขึ้นมาทางบันไดชั้น 2 ก่อนชักอาวุธปืนเดินตามประกบหลังและยิงใส่จากด้านหลังในทันที หลังจากนั้นเพื่อนของผู้ตายเดินขึ้นจากโต๊ะไปช่วย ทำให้โดนยิงไปด้วย ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีลูกค้านั่งกันประมาณ 20 โต๊ะ

ด้าน นายวุฒิชัย คงแป้น หรือเด่น อายุ 42 ปี เพื่อนที่มาด้วยกันกับผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครกันมาก่อน มานั่งดื่มกินกันปกติ ตอนเกิดเหตุตนเองกำลังเต้นอยู่ห่างจากโต๊ะ มารู้อีกทีก็ได้ยินเสียงปืน และเห็นผู้ก่อเหตุเดินมาไล่ยิงเพื่อนตนแล้ว



ขณะที่ พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาว์ดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง ระบุว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุประมาณ 4 ทุ่ม ได้สั่งการให้ทางตำรวจ สภ.เมืองตรัง เข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยตามปกติในประจำทุกวัน และเตรียมที่จะออกตรวจอีกครั้งในช่วงร้านปิดให้บริการ แต่ปรากฏว่าได้เกิดเหตุดังกล่าวก่อน ที่ผ่านมาทางตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดมาตลอด และหลังจากนี้จะกำชับดูแลให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวพยาน ซึ่งเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต และพนักงานเสิร์ฟของร้านทั้งหมดจำนวน 7 ปากไปสอบปากคำ เบื้องต้นให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันและเป็นประโยชน์กับทางคดี

ผกก.สภ.เมืองตรัง กล่าวด้วยว่า ส่วนปมสาเหตุคาดว่ามาจากมีเรื่องเขม่นกันภายในร้าน แต่ยังคงไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ทิ้ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ขณะที่ตำรวจผู้ก่อเหตุยังหลบหนี ทางกำลังตำรวจ ได้จัดชุดไล่ล่าตัวอย่างเร่งด่วนแล้ว ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ขอบคุณข้อมูล และภาพข่าว จาก ไทยรัฐออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า