ตรังทำแผนวุ่น คุม 2 หนุ่มฆ่ารูดทรัพย์ เสี่ยชาวจีน ญาติคนตายกรูเข้าใส่ ตะโกนด่า


 กำลังตำรวจกว่า 30 นาย คุมตัว 2 หนุ่มทำแผนนาทีลงมือสังหารโหด เสี่ยนักธุรกิจชาวจีน หมกรีสอร์ต วางแผนรูดทรัพย์ หวิดถูกญาติเมียคนตายรุมประชาทัณฑ์

วันที่ 18 พ.ค. 66 พล.ต.ต เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง นำกำลังตำรวจกว่า 30 นาย ควบคุมตัว นายณัฐดนัย อุ่นใจเพื่อน อายุ 22 ปี คนแทง และนายณัฐพล สุขเบื้อง อายุ 19 ปี ชาว ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งเป็นผู้ต้องหา 2 ใน 3 คนที่ร่วมกันฆ่านายซีรุย ลี อายุ 43 ปี นักธุรกิจส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปสัญชาติจีน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง โดยมีภรรยาและลูกของผู้ตาย รวมทั้งญาติพี่น้องกว่า 20 คน เดินทางมาดูการทำแผนด้วย

ในจังหวะที่กำลังเดินทางน้องภรรยาของผู้ตายพยายามจะเข้ามาประชาทัณฑ์ แต่ทางตำรวจได้กีดกันได้เสียก่อน ทำให้บรรดาญาติตะโกนด่าบุพการีและประณามถึงการกระทำที่รุนแรงกับผู้ก่อเหตุ

ส่วนผู้ต้องหาหญิง คือน้องฝ้าย อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเยาวชน ไม่ได้นำมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ควบคุมตัวไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ตรัง เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพสอบปากคำและนำไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะนำตัวส่งฝากขังที่ ศาลเด็กและเยาวชน จ.ตรัง

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้แก่ 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ร่วมกันปล้นทรัพย์ ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป

ส่วนผลการผ่าชันสูตรศพของผู้ตาย พบมีสารของยานอนหลับ และแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกาย โดยตำรวจได้นำรถเก๋ง ของผู้ตายมาในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งคนร้ายได้ปลดทะเบียน และกล้องหน้ารถ รวมทั้งจีพีเอสออกแล้ว โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 20 นาที เนื่องจากน้องเมียของผู้ตายได้ปรี่จะเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหาและมีการตะโกนด่าสาปแช่ง ตำรวจจึงรีบนำตัว 2 ผู้ต้องหาไปทำแผนชี้จุดตามเส้นทางหลบหนี รวมทั้งร้านจำหน่ายยานอนหลับให้กับผู้ต้องหา

โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ผู้ตายได้มาเปิดห้องพักเบอร์ 5 ที่รีสอร์ตดังกล่าว โดยนัดกับน้องฝ้าย หญิงขายบริการ อายุ 17 ปี ที่เคยนัดกันมาแล้วก่อนหน้านี้ 3 ครั้ง เพื่อมาร่วมหลับนอนกัน แต่ปรากฏว่าฝ่ายหญิงได้ใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายภาพผู้ตายเปลือยกายขณะร่วมหลับนอน ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ ประกอบกับความมึนเมา ผู้ตายจึงตบหน้าของน้องฝ้ายไป 1 ครั้ง น้องฝ้ายจึงได้แชทไลน์ไปหา นายเจ เพื่อระบายความโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายกระทำ

นายเจ จึงชักชวนนายอิฐ มาเปิดห้องพักใกล้กัน โดยน้องฝ้ายอาศัยจังหวะที่ผู้ตายนอนหันหลังให้ แอบนำ นายเจ เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ จนกระทั่งผู้ตายเข้าห้องน้ำ นายเจ จึงลงมือแทงไม่ยั้ง เข้าที่ลำคอ 1 แผล ด้านหน้าลำตัว 9 แผล และบริเวณด้านหลัง 11 แผล รวมกว่า 20 แผล ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะหลบหนีไป พร้อมทรัพย์สินของผู้ตายหลายรายการ

ด้าน น.ส.ฟ้า (นามสมมติ) น้องเมียของนายซีรุยลี (ผู้ตาย) กล่าวว่า ผู้ตายเป็นคนใจดีและพนักงานทุกคนรักผู้ตายมาก แต่จะเป็นเรื่องของการไม่จ่ายค่าบริการหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่รู้ว่าผู้ตายเป็นคนนิสัยดีมาก ส่วนเรื่องอื่น ๆ ตนไม่ทราบ แต่ไม่เชื่อตามคำให้การของผู้ต้องหา

ส่วน พนักงานบริษัทของผู้ตาย กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะไม่มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้าเพราะมีการนำยานอนหลับมาใช้ด้วย และไม่เชื่อว่าเป็นแค่เรื่องชู้สาว เพราะตนทำงานกับผู้ตายมานาน หากแค่เรื่องค่าบริการหญิงสาวที่ไม่จ่ายเงิน ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้เพราะผู้ตายเป็นคนใจดีมาก และเชื่อว่าผู้ต้องหาพูดโกหก ซึ่งทางญาติผู้ตายกำลังเดินทางมา ส่วนเรื่องธุรกิจก็ต้องทำต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ. อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า คดีนี้ปิดคดีได้แล้วด้วยการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 คนและแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยมีความผิดเกี่ยวกับการทรัพย์ด้วย และได้นำตัวผู้ต้องหาหญิงไปสอบปากคำต่อโดยสหวิชาชีพเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังนำไปตรวจร่างกาย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน

จากการสอบสวนผู้ตายกับหญิงอายุ 17 ปี รู้จักกันและนัดพบกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยตรวจสอบจากบัตรประชาชนแล้วว่าเป็นเยาวชนจริง ส่วนผู้ต้องหาชาย-หญิงรู้จักกันมาก่อนเพราะอยู่ จ.สตูล ด้วยกัน

ส่วนที่อ้างว่าผู้ตายไม่ได้จ่ายเงินให้เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา แต่ตำรวจยังต้องตรวจสอบพยานหลักฐานอื่น ๆ เช่น การแชททางโทรศัพท์ พยานหลักฐานที่เป็นเทคโนโลยีอีกที เพราะไม่ได้เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาเสียทีเดียว ส่วนปมจ้างวานฆ่ายังไม่มีพยานหลักฐาน แต่เป็นการร่วมกันฆ่าทั้ง 3 คนซึ่งตกลงกันว่าไม่พอใจผู้ตาย จึงร่วมกันฆ่า ซึ่งผู้ตายไม่พบความขัดแย้งกับใคร ส่วนธุรกิจไม้ยางกำลังตรวจสอบ และผลนิติวิทยาศาสตร์ผลยังไม่ออก ซึ่งคนร้ายได้เงินของผู้ตายไปประมาณหมื่นกว่าบาท เบื้องต้นยังไม่พบว่าผู้ต้องหาเคยก่อคดีลักษณะนี้มาก่อน และไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ตาย รวมทั้งผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ตำรวจสรุปว่าเป็นการฆ่าเพื่อปล้นทรัพย์ โดยไม่มีผู้จ้างวาน แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาวระหว่างน้องฝ้ายกับนายเจ อยู่ในระหว่างการติดตามรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งนายเจ เคยเป็นอดีตทหารเกณฑ์ใน จ.ยะลา ชอบสะสมอาวุธมีด แต่ไม่มีประวัติติดยาเสพติดและคดีอาชญากรรมติดตัว




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ข่าวสดออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า