แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น ตร. คดีฟอกเงิน หลอกโอน 1.5 ล้าน มรดกแม่ไม่เหลือสักบาท


 เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กับบทบาทตำรวจปราบคดีฟอกเงิน อ้างเหยื่อมีบัญชีธนาคารเอี่ยวคนร้าย หลอกโอนเงินมาให้ตรวจสอบ 1,500,000 บาท รู้ตัวอีกทีมรดกแม่ไม่เหลือสักบาท

  วันที่ 31 สิงหาคม 2566 โหนกระแส รายงานว่า ผู้เสียหายคนหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับคนร้าย ในความผิดฉ้อโกงทรัพย์ หลังจากที่เธอถูกหลอกให้โอนเงิน 1,500,000 บาท ซึ่งเป็นมรดกของคุณแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว

             ทั้งนี้ ผู้เสียหายเผยว่า มิจฉาชีพได้อ้างตัวเป็น เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน และบอกว่าได้จับกุมผู้ต้องหาฟอกเงินได้รายหนึ่ง ผู้ต้องหาได้ซัดทอดการกระทำผิดด้วยการซื้อบัญชีธนาคารของตนมาในราคา 15,000 บาท และมิจฉาชีพต้องการตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนทั้งหมด เนื่องจากตนมีส่วนในการฟอกเงิน

   วิธีการตรวจสอบนั้น คือโอนเงินทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ตนจึงโอนเงินให้ครั้งแรกในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นเงิน 700,000 บาท และโอนเงินให้ครั้งที่ 2 เป็นเงิน 800,000 บาท และโอนเงินครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายอีก 40,000 บาท รวมทั้งสิ้น  1,540,000 บาท จนกระทั่งมาเอะใจว่าอาจถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอก

             ด้านน้องสาวของผู้เสียหาย กล่าวว่า พี่สาวของตนก็เป็นผู้จัดการมรดกของคุณแม่ที่เสียชีวิต คุณแม่ได้ทิ้งเงินในบัญชีธนาคารเอาไว้ 800,000 บาท และพี่สาวก็เป็นคนจัดการบัญชีนั้นจากนั้นจึงมีการแบ่งมรดกให้พี่น้อง 5 คน แต่เนื่องจากบัญชีนั้นเป็นบัญชีเงินฝากพิเศษออมทรัพย์ ดอกเบี้ยสูง ตนก็เลยเอาเงินของตนออกให้ไปก่อน ส่วนเงินมรดกก็ยังเอาไว้เหมือนเดิม ไม่คาดคิดว่าพี่สาวจะโดนมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปจนหมดบัญชี




ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า