นร.โรงเรียนหาดปากเมง นำเปลือกหอยชักตีนสร้างพวงกุญแจแบรนด์ “แลใต้”

เด็กนักเรียน ร.ร.หาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง นำเปลือกหอยชักตีน หอยดังประจำถิ่นมาทำเป็นพวงกุญแจภายใต้แบรนด์ “แลใต้” ส่งขายดีในเมืองท่องเที่ยว เพราะมีราคาถูกแต่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียว
 


วันนี้ (8 พ.ย.) “ครูแบล็ค” หรือนายนิพิฐพนธ์ ตรวจขุนทด ครูศิลปะโรงเรียนหาดปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ตรัง เขต 2 กล่าวว่า เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง และยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีสัตว์ทะเลจำนวนมากมาย โดยเฉพาะ “หอยชักตีน” (Wing Shell) หรือ “หอยสังข์กระโดด” จนนับเป็นอาหารชั้นเลิศของนักชิม ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนต่างไม่ยอมพลาดเมนูชนิดนี้
นั่นจึงเป็นที่มาของแนวคิดจนนำมาสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ในโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรมนำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลังจากที่นักเรียนกลุ่มหนึ่งได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านริมหาดปากเมง และเกิดความสงสัยว่า เปลือกหอยชักตีนที่ถูกทิ้งไว้เกลื่อนกลาดนั้นสามารถเอามาทำอะไรได้บ้าง นอกจากจะเป็นแค่ขยะชิ้นโตที่ส่งกลิ่นไม่น่าอภิรมย์ จึงระดมความคิดกับครูจนได้ข้อสรุปว่า น่าจะลองนำเปลือกหอยชักตีนมาทำเป็น “พวงกุญแจ”



หลังจากใช้ความพยายามอยู่หลายปี ในที่สุดจึงก่อเกิดกิจการที่ชื่อว่า Sea Shall Products หรือผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอยทะเล ภายใต้แบรนด์ “แลใต้” และสามารถคว้ารางวัลต่างๆ มาอย่างมากมาย ทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ โดยการนำของน้องๆ นักเรียนชั้น ม.2-3 และมี “ครูแบล็ค” หรือนายนิพิฐพนธ์ เป็นที่ปรึกษา เพื่อทำพวงกุญแจหอยชักตีน หรือหอยเบญจรงค์ ส่งขายในราคาชิ้นละ 35 บาท โดยเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยว หรือร้านของที่ระลึก ทั้งในจังหวัดตรังและใกล้เคียง เช่น กระบี่ สุราษฎร์ธานี
สำหรับแผนการตลาดนั้น นอกจากทางโรงเรียนจะไปติดต่อกับร้านค้าโดยตรงแล้ว ยังประชาสัมพันธ์ในสื่อออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก หรือไลน์ ซึ่งช่วยให้เกิดกระแสตอบรับอย่างกว้างขวาง กระทั่งล่าสุด มียอดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เข้ามาเดือนละประมาณ 300-500 ชิ้นแล้ว หรือสามารถสร้างรายได้ให้ราวๆ เดือนละ 1-2 หมื่นบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้แค่เดือนละ 200 ชิ้นเท่านั้น จึงกำลังเตรียมผลิตสินค้าให้มีขนาดใหญ่ และหลากหลายมากขึ้นในอนาคต เช่น โคมไฟ มู่ลี่ โมบาย แจกัน เก้าอี้ประดับ โต๊ะรับแขก เพื่อรองรับตลาดอีกกลุ่มหนึ่ง


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ

 

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า