ตะลึง! พบวัตถุโบราณริมหัวแหลมหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ขณะที่ “ร่างทรง” ระบุอีกรอถึงเดือน 9 จะขุดพบ “ทองคำ” ฝังอยู่ใกล้กัน จนสร้างความฮือฮาให้ชาวบ้านอย่างมาก ล่าสุดต้องปิดพื้นที่เกรงเกิดความวุ่นวาย
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กว่า 60 คน ได้ช่วยกันนำวัตถุโบราณ ซึ่งเป็นภาชนะ อาวุธ และของใช้ต่างๆ จำนวนหลายชิ้น มาเก็บรักษาไว้ชั่วคราว หลังจากที่มีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ได้ถูก “ทวดโต๊ะแหลม” มาเข้าทรงภายในร่าง พร้อมกับนำไปชี้จุดให้ชาวบ้านขุดบริเวณริมชายหาดหัวแหลมหยงสตาร์ ที่อยู่ห่างจากศาลทวดโต๊ะแหลมประมาณ 50 เมตร ซึ่งมีวัตถุโบราณฝังอยู่ใต้ก้อนหินกรวดทราย จนสร้างความตกตะลึงให้กับชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วัตถุโบราณที่ทำการค้นพบในครั้งนี้ มีภาชนะหม้อทำจากทองเหลืองแบบมีฝาปิด 1 ใบ กระทะทองเหลืองขนาดใหญ่ 1 ใบ ไปป์สำหรับสูบบุหรี่ 2 อัน มีดกริชพร้อมปลอก 1 เล่ม มีดทองเหลืองพร้อมปลอก 1 เล่ม เหล็กทองเหลืองลักษณะคล้ายขวาน 1 เล่ม และก้อนประหลาดอีก 1 ก้อน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าเพชร 7 สี ซึ่งในขณะทำการขุดพบวัตถุโบราณทั้งหมดได้ถูกกระทะทองเหลืองขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ แต่โดยสภาพทั่วไปถือว่าค่อนข้างจะสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
นายประหยัด หยงสตาร์ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง กล่าวว่า หลังจากที่รับแจ้งจากลูกบ้านว่า มีการพบวัตถุโบราณจำนวนหลายชิ้น ก็ได้รายงานไปยังนายอำเภอปะเหลียน ก่อนที่จะนำเชือกไปปิดกั้นพื้นที่ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด เพื่อรอหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตามจากการที่ตนเองได้สอบถามร่างทรงถึงอายุของวัตถุโบราณดังกล่าว โดยบอกว่ามีอายุ 309 ปี และสั่งว่าให้รอถึงเดือน 9 จะมาเข้าทรงอีกครั้ง และจะนำไปชี้จุดที่มีทองคำฝังอยู่ใต้หินบริเวณใกล้กัน ซึ่งหลังจากกระแสข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ตนเองจึงหวั่นเกรงจะเกิดความวุ่นวาย หากชาวบ้านเข้าไปขุดค้นหาเพิ่มเติม จึงจำเป็นที่จะต้องปิดกั้นพื้นที่ไว้ก่อน
สำหรับ “ทวดโต๊ะแหลม” จากประวัติในอดีตที่มีการบันทึกระบุไว้ว่า เป็นพ่อค้าอิสลามที่มาจากประเทศอินโดนีเซีย เพี่อนำสินค้ามาขายในประเทศไทย เป็นระยะเวลานานหลายปี โดยจะมาค้างแรมที่หัวแหลมหยงสตาร์เป็นประจำ และได้เสียชีวิตลงที่นี่ ก่อนที่ญาติจะนำศพกลับไปยังประเทศอินโดนีเซีย กระทั่งต่อมาได้เกิดพายุอย่างรุนแรง ทำให้เรือประมง และเรือสินค้าอับปางลงกลางทะเลจำนวนมาก ซึ่งหลายคนได้ภาวนา และบนบานถึงทวดโต๊ะแหลม เพื่อขอให้ช่วยเหลือ จนไม่นานพายุก็สงบลง และทุกคนปลอดภัย
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้กลายเป็นที่ร่ำลือว่าที่ชาวประมงทั้งหมดรอดชีวิต เพราะบารมีของทวดโต๊ะแหลม ทำให้ชาวเรือในปัจจุบัน หากเกิดพายุหรือเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยในทะเล ก็จะบนบานถึงทวดโต๊ะแหลม เพื่อขอให้ช่วยเหลือตลอดมา กระทั่งได้มีการสร้างศาลรูปปั้นไว้ที่ริมชายหาดหัวแหลมหยงสตาร์ และมักจะมีผู้คนเดินทางไปกราบขอพรในเรื่องต่างๆ อยู่เป็นประจำ
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กว่า 60 คน ได้ช่วยกันนำวัตถุโบราณ ซึ่งเป็นภาชนะ อาวุธ และของใช้ต่างๆ จำนวนหลายชิ้น มาเก็บรักษาไว้ชั่วคราว หลังจากที่มีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ได้ถูก “ทวดโต๊ะแหลม” มาเข้าทรงภายในร่าง พร้อมกับนำไปชี้จุดให้ชาวบ้านขุดบริเวณริมชายหาดหัวแหลมหยงสตาร์ ที่อยู่ห่างจากศาลทวดโต๊ะแหลมประมาณ 50 เมตร ซึ่งมีวัตถุโบราณฝังอยู่ใต้ก้อนหินกรวดทราย จนสร้างความตกตะลึงให้กับชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วัตถุโบราณที่ทำการค้นพบในครั้งนี้ มีภาชนะหม้อทำจากทองเหลืองแบบมีฝาปิด 1 ใบ กระทะทองเหลืองขนาดใหญ่ 1 ใบ ไปป์สำหรับสูบบุหรี่ 2 อัน มีดกริชพร้อมปลอก 1 เล่ม มีดทองเหลืองพร้อมปลอก 1 เล่ม เหล็กทองเหลืองลักษณะคล้ายขวาน 1 เล่ม และก้อนประหลาดอีก 1 ก้อน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าเพชร 7 สี ซึ่งในขณะทำการขุดพบวัตถุโบราณทั้งหมดได้ถูกกระทะทองเหลืองขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ แต่โดยสภาพทั่วไปถือว่าค่อนข้างจะสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
นายประหยัด หยงสตาร์ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง กล่าวว่า หลังจากที่รับแจ้งจากลูกบ้านว่า มีการพบวัตถุโบราณจำนวนหลายชิ้น ก็ได้รายงานไปยังนายอำเภอปะเหลียน ก่อนที่จะนำเชือกไปปิดกั้นพื้นที่ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด เพื่อรอหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตามจากการที่ตนเองได้สอบถามร่างทรงถึงอายุของวัตถุโบราณดังกล่าว โดยบอกว่ามีอายุ 309 ปี และสั่งว่าให้รอถึงเดือน 9 จะมาเข้าทรงอีกครั้ง และจะนำไปชี้จุดที่มีทองคำฝังอยู่ใต้หินบริเวณใกล้กัน ซึ่งหลังจากกระแสข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ตนเองจึงหวั่นเกรงจะเกิดความวุ่นวาย หากชาวบ้านเข้าไปขุดค้นหาเพิ่มเติม จึงจำเป็นที่จะต้องปิดกั้นพื้นที่ไว้ก่อน
สำหรับ “ทวดโต๊ะแหลม” จากประวัติในอดีตที่มีการบันทึกระบุไว้ว่า เป็นพ่อค้าอิสลามที่มาจากประเทศอินโดนีเซีย เพี่อนำสินค้ามาขายในประเทศไทย เป็นระยะเวลานานหลายปี โดยจะมาค้างแรมที่หัวแหลมหยงสตาร์เป็นประจำ และได้เสียชีวิตลงที่นี่ ก่อนที่ญาติจะนำศพกลับไปยังประเทศอินโดนีเซีย กระทั่งต่อมาได้เกิดพายุอย่างรุนแรง ทำให้เรือประมง และเรือสินค้าอับปางลงกลางทะเลจำนวนมาก ซึ่งหลายคนได้ภาวนา และบนบานถึงทวดโต๊ะแหลม เพื่อขอให้ช่วยเหลือ จนไม่นานพายุก็สงบลง และทุกคนปลอดภัย
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้กลายเป็นที่ร่ำลือว่าที่ชาวประมงทั้งหมดรอดชีวิต เพราะบารมีของทวดโต๊ะแหลม ทำให้ชาวเรือในปัจจุบัน หากเกิดพายุหรือเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยในทะเล ก็จะบนบานถึงทวดโต๊ะแหลม เพื่อขอให้ช่วยเหลือตลอดมา กระทั่งได้มีการสร้างศาลรูปปั้นไว้ที่ริมชายหาดหัวแหลมหยงสตาร์ และมักจะมีผู้คนเดินทางไปกราบขอพรในเรื่องต่างๆ อยู่เป็นประจำ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
Tags
ข่าวเมืองตรัง