ชาวบ้านสุดทนเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม เนื้อตัวเขียวช้ำ ปูดบวม เบ้าตาสองข้างปิด แจ้งตำรวจจับพ่อเลี้ยง และแม่หนูน้อยดำเนินคดี พ่อเลี้ยงรับเป็นคนทุบตีเองเพราะไปลักของคนอื่น แต่ก็ทำไปด้วยความรัก ขณะที่แม่บอกลูกตกบันไดเอง แต่ไม่มีเงินพาไปหาหมอ โดยไม่รู้ถูกแฟนทำร้าย
คืนวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ ไชยมณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้มาช่วยเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกทำร้าย ร้องเสียดังด้วยความเจ็บปวด ภายในบ้านพักคนงาน ซอยเพชรหึงษ์ 21 เลขที่ 103/1 ม.9 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ ภายในบ้านพักคนงาน พบเด็กหญิงแหม่ม อายุ 5 ปี อยู่ภายในบ้าน สภาพได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลปูดบวม และฟกช้ำที่เบ้าตาทั้งสองข้างจนตาปิด และร่องรอยถลอกตามใบหน้า นอกจากนี้ บริเวณแผ่นหลังยังพบร่องรอยเขียวช้ำจากการถูกทุบตี เจ้าหน้าที่จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพรีบมารับตัวส่งไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบางจากพระประแดง เพื่อทำการรักษาทันที และได้เชิญตัว น.ส.คนเล็ก บุษดี ผู้เป็นแม่ อายุ 23 ปี และนายประสิทธ์ หอยทอง อายุ 25 ปี พ่อเลี้ยงที่อยู่กับเด็กในขณะนั้น มาสอบปากคำที่ สภ.พระประแดง
ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุเล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้ยินเสียงด่าทอและทุบตีเด็กหญิงแหม่มอยู่บ่อยครั้ง ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ใส่ใจเนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว และไม่พบเห็นบาดแผลของน้อง จนกระทั่งมาช่วงสายของวันนี้ก็ยังได้ยินเสียงเด็กร้องไห้และโวยวายด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปดู จนมาช่วงค่ำได้ยินเสียงร้องหนักกว่าทุกครั้ง จึงอดรนทนไม่ไหวตัดสินใจโทร.แจ้งตำรวจให้ช่วยมาดู จนพบว่าเด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก
ขณะที่นายประสิทธิ์ พ่อเลี้ยงให้การว่า ตนเองเพิ่งมาคบและอยู่กินกับแม่ของเด็กได้เพียงไม่กี่เดือน เดิมทีเด็กจะพักอาศัยอยู่กับปู่ แต่มาระยะหลัง น.ส.คนเล็กได้ไปรับมาอยู่ด้วย ส่วนบาดแผลที่พบนั้นตนเป็นคนตบเบ้าตาทั้งสองข้างของเด็กจริง เพราะน้องไปลักทรัพย์ของคนอื่น จึงสั่งสอนไม่อยากให้ไปทำอีก ตนรักน้องแหม่มเหมือนลูกจึงตบตีเพื่อสั่งสอนไม่ให้ไปลักของใครอีก
ด้าน น.ส.คนเล็กให้การอ้างว่า เมื่อ 3 วันที่แล้วน้องตกบันไดบ้าน แต่ไม่เห็นบาดแผลปูดบวม มาเห็นก็วันนี้ ส่วนที่ไม่พาลูกสาวไปหาหมอนั้นอ้างว่าไม่มีเงิน ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยตบตีลูกบ้างหากพบว่าลูกดื้อ ส่วนที่แฟนหนุ่มทุบตีนั้น ตนไม่ทราบว่าก่อเหตุกับลูก จนมาทราบจากปากของลูกในวันนี้
ขณะที่นายวิสูตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี ปู่ของเด็กซึ่งพักอยู่กันคนละซอย ได้เดินทางมายัง สภ.พระประแดง เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นห่วงหลานสาว โดยทันทีที่ผู้เป็นปู่ทราบเรื่องว่าหลาวสาวถูกกระทำจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงกับโมโห พร้อมยืนยันว่าจะเอาเรื่องพ่อเลี้ยงรายนี้ให้ถึงที่สุด เพราะรับไม่ได้ที่กระทำกับหลานสาวอายุเพียงแค่นี้
นายวิสูตรเล่าว่า เดิมหลานสาวพักอยู่กับตนเองตั้งแต่แรกเกิด ตนเองก็เลี้ยงดูมาอย่างดีด้วยความรักและเอ็นดู จนเมื่อไม่กี่วันมานี้แม่เขามาขอรับไปอยู่ด้วย ตนก็ไม่ได้ห้ามปรามเพราะคิดว่าเป็นแม่ลูกกัน และไม่คิดว่าการที่ปล่อยหลานกับไปอยู่กับแม่แท้ๆ จะถูกกระทำได้หนักถึงเพียงนี้ จึงเดินทางมาแจ้งความเอาผิดด้วยอีกคน
เบื้องต้น ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ได้รับเรื่องและลงบันทึกประจำวัน พร้อมทั้งทำประวัติของมารดาและพ่อเลี้ยงไว้ ก่อนจะปล่อยตัวกลับไป โดยอ้างเหตุผลว่าจะต้องสอบพยานและเรียกมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งรอผลการรักษาจากแพทย์ด้วย ซึ่งผู้เสียหายเป็นเด็กและเยาวชนจะต้องสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ ในเบื้องต้นเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีพ่อเลี้ยงและมารดาแน่นอน
คืนวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ ไชยมณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้มาช่วยเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกทำร้าย ร้องเสียดังด้วยความเจ็บปวด ภายในบ้านพักคนงาน ซอยเพชรหึงษ์ 21 เลขที่ 103/1 ม.9 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ ภายในบ้านพักคนงาน พบเด็กหญิงแหม่ม อายุ 5 ปี อยู่ภายในบ้าน สภาพได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลปูดบวม และฟกช้ำที่เบ้าตาทั้งสองข้างจนตาปิด และร่องรอยถลอกตามใบหน้า นอกจากนี้ บริเวณแผ่นหลังยังพบร่องรอยเขียวช้ำจากการถูกทุบตี เจ้าหน้าที่จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพรีบมารับตัวส่งไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบางจากพระประแดง เพื่อทำการรักษาทันที และได้เชิญตัว น.ส.คนเล็ก บุษดี ผู้เป็นแม่ อายุ 23 ปี และนายประสิทธ์ หอยทอง อายุ 25 ปี พ่อเลี้ยงที่อยู่กับเด็กในขณะนั้น มาสอบปากคำที่ สภ.พระประแดง
ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุเล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้ยินเสียงด่าทอและทุบตีเด็กหญิงแหม่มอยู่บ่อยครั้ง ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ใส่ใจเนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว และไม่พบเห็นบาดแผลของน้อง จนกระทั่งมาช่วงสายของวันนี้ก็ยังได้ยินเสียงเด็กร้องไห้และโวยวายด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปดู จนมาช่วงค่ำได้ยินเสียงร้องหนักกว่าทุกครั้ง จึงอดรนทนไม่ไหวตัดสินใจโทร.แจ้งตำรวจให้ช่วยมาดู จนพบว่าเด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก
ขณะที่นายประสิทธิ์ พ่อเลี้ยงให้การว่า ตนเองเพิ่งมาคบและอยู่กินกับแม่ของเด็กได้เพียงไม่กี่เดือน เดิมทีเด็กจะพักอาศัยอยู่กับปู่ แต่มาระยะหลัง น.ส.คนเล็กได้ไปรับมาอยู่ด้วย ส่วนบาดแผลที่พบนั้นตนเป็นคนตบเบ้าตาทั้งสองข้างของเด็กจริง เพราะน้องไปลักทรัพย์ของคนอื่น จึงสั่งสอนไม่อยากให้ไปทำอีก ตนรักน้องแหม่มเหมือนลูกจึงตบตีเพื่อสั่งสอนไม่ให้ไปลักของใครอีก
ด้าน น.ส.คนเล็กให้การอ้างว่า เมื่อ 3 วันที่แล้วน้องตกบันไดบ้าน แต่ไม่เห็นบาดแผลปูดบวม มาเห็นก็วันนี้ ส่วนที่ไม่พาลูกสาวไปหาหมอนั้นอ้างว่าไม่มีเงิน ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยตบตีลูกบ้างหากพบว่าลูกดื้อ ส่วนที่แฟนหนุ่มทุบตีนั้น ตนไม่ทราบว่าก่อเหตุกับลูก จนมาทราบจากปากของลูกในวันนี้
ขณะที่นายวิสูตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี ปู่ของเด็กซึ่งพักอยู่กันคนละซอย ได้เดินทางมายัง สภ.พระประแดง เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นห่วงหลานสาว โดยทันทีที่ผู้เป็นปู่ทราบเรื่องว่าหลาวสาวถูกกระทำจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงกับโมโห พร้อมยืนยันว่าจะเอาเรื่องพ่อเลี้ยงรายนี้ให้ถึงที่สุด เพราะรับไม่ได้ที่กระทำกับหลานสาวอายุเพียงแค่นี้
นายวิสูตรเล่าว่า เดิมหลานสาวพักอยู่กับตนเองตั้งแต่แรกเกิด ตนเองก็เลี้ยงดูมาอย่างดีด้วยความรักและเอ็นดู จนเมื่อไม่กี่วันมานี้แม่เขามาขอรับไปอยู่ด้วย ตนก็ไม่ได้ห้ามปรามเพราะคิดว่าเป็นแม่ลูกกัน และไม่คิดว่าการที่ปล่อยหลานกับไปอยู่กับแม่แท้ๆ จะถูกกระทำได้หนักถึงเพียงนี้ จึงเดินทางมาแจ้งความเอาผิดด้วยอีกคน
เบื้องต้น ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ได้รับเรื่องและลงบันทึกประจำวัน พร้อมทั้งทำประวัติของมารดาและพ่อเลี้ยงไว้ ก่อนจะปล่อยตัวกลับไป โดยอ้างเหตุผลว่าจะต้องสอบพยานและเรียกมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งรอผลการรักษาจากแพทย์ด้วย ซึ่งผู้เสียหายเป็นเด็กและเยาวชนจะต้องสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ ในเบื้องต้นเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีพ่อเลี้ยงและมารดาแน่นอน
Tags
ข่าวทั่วทิศ