ช็อก!! หนูน้อย ป.5 คิดสั้นผูกคอฆ่าตัวตาย พี่สาววัย 13 ช่วยไว้ทัน รอดตายหวุดหวิด แม่เชื่อปัญหาขัดแย้งกับเพื่อนในโรงเรียน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ รพ.กระบี่ อ.เมืองกระบี่ แพทย์ และพยาบาลห้องฉุกเฉิน รับตัวผู้ป่วยฉุกเฉินจาก รพ.ลำทับ อ.ลำทับ เป็นเด็กผู้ชายอายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม ใช้ผ้าผูกคอตัวเองที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านนางรอง ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา อาการสาหัส จนท.จับชีพจรได้แต่เด็กยังหมดสติไม่รู้สึกตัว จึงเร่งช่วยเหลือนำตัวเข้านอนพักดูอาการที่ตึกศัลยกรรมชาย 2 รพ.กระบี่ ล่าสุด ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี คนเจ็บ มีการอาการดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถพูดคุยได้ แพทย์และพยาบาล ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
จากการสอบถาม ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พี่สาวของเด็ก ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา แม่ไม่อยู่บ้าน ตนและน้องชายคือ ด.ช.เอ วัย 11 ปี และน้องชายอีกคนวัย 8 ปี อยู่บ้านกันเพียงลำพัง ช่วงที่ตนกำลังเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมทำอาหารให้น้องๆ กิน ตนเรียก ด.ช.เอ แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงเดินออกมาดูที่ห้องโถงในบ้านก็พบน้องชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองหมดสติอยู่แล้ว จึงรีบเข้าไปปลดผ้าออก แล้วขับรถจักรยานยนต์ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในหมู่บ้าน ห่างไปประมาณ 2 กม. ชาวบ้านจึงช่วยกันปฐมพยาบาล และนำตัวน้องชายส่ง รพ.ลำทับ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร
ขณะที่ นางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 46 ปี แม่ของ ด.ช.เอ เผยว่า สาเหตุที่ลูกชายคิดสั้น ตนเชื่อว่ามาจากปัญหาในกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนที่ลูกชายเรียนอยู่ โดยเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนทราบจากลูกว่ามีกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนบางกลุ่ม มาข่มขู่และทำร้ายลูก ก่อนหน้านี้ลูกไปเล่นเครื่องเล่นในโรงเรียน แล้วเสียหลักล้มลงทำให้เท้าไปโดนนักเรียนคนหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ กลุ่มนักเรียนดังกล่าวจึงทำร้ายชกหน้าลูกชาย จนลูกบ่นว่าไม่อยากจะไปโรงเรียนแล้วเพราะกลัวจะเกิดเรื่องอีก
วันเกิดเหตุลูกทำร้ายตัวเอง ตนต้องไปทำงานที่เกาะลันตา อ.เกาะลันตา ลูกขอว่าจะไปกับตนด้วย แต่ตนเห็นว่าหากไปด้วยจะลำบาก จึงให้ลูกอยู่บ้านกับพี่สาวและน้องชาย แต่ไม่นึกว่าลูกจะตัดสินใจทำแบบนี้ ตนเล่าเรื่องดังกล่าวให้ครูที่โรงเรียนทราบ ซึ่งทางครูรับปากว่าจะเร่งสืบหาว่าเด็กกลุ่มไหนที่มีพฤติกรรมตามที่บอก
นางแก้ว กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนอยากให้ลูกชายหายดีเท่านั้น ส่วนปัญหาภายในโรงเรียนเป็นหน้าที่ของครูที่โรงเรียนจะดำเนินการแก้ปัญหาให้ ตนยืนยันว่าลูกชายเป็นเด็กขยัน อยู่บ้านก็จะช่วยตนทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ทั้งช่วยกรีดยางขาย เวลาอยู่โรงเรียนก็ชอบช่วยเหลืองานครูที่โรงเรียน จนครูที่โรงเรียนแทบทุกคนจะรักน้องมาก แต่อาจจะทำให้เพื่อนบางคนไม่ชอบ เพราะเป็นเด็กที่ครูรัก
ด้าน นพ.สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผอ.รพ.กระบี่ กล่าวว่า ตอนนี้อาการของเด็ก ยังอยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวัง เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนเป็นระยะเวลาพอสมควร แต่อาการดีขึ้นตามลำดับ เด็กเริ่มมีอาการตอบสนองที่ดีขึ้น ขยับแขนขาได้ เวลาเรียกก็มีอาการตอบสนอง เริ่มลืมตาได้ ซึ่งตนกำชับ จนท.ให้ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาจนกว่าจะประเมินอาการได้ภายใน 48 ชั่วโมง
ในส่วนของการเยียวยาด้านสภาพจิตใจ สั่งให้ จนท.สุขภาพจิตของ รพ.คอยดูแลสภาพจิตใจของครอบครัว ทั้งแม่เด็ก พี่สาว น้องชาย รวมทั้งเมื่อเด็กหายดี จะต้องดูแลสภาพจิตใจอีกครั้ง ให้เด็กสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่ขอชื่นชม คือ ชาวบ้านที่ช่วยเหลือเด็กตั้งแต่ทราบเหตุครั้งแรก มีความรู้ในการปฐมพยาบาลทำ CPR ในเบื้องต้น จนทำให้สามารถช่วยเหลือเด็กไว้ได้ เป็นสิ่งที่ต้องให้ชุมชน ชาวบ้าน ได้เรียนรู้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อชุมชนโดยรวมเวลาเกิดเหตุขึ้นมา
จากการสอบถาม ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พี่สาวของเด็ก ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา แม่ไม่อยู่บ้าน ตนและน้องชายคือ ด.ช.เอ วัย 11 ปี และน้องชายอีกคนวัย 8 ปี อยู่บ้านกันเพียงลำพัง ช่วงที่ตนกำลังเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมทำอาหารให้น้องๆ กิน ตนเรียก ด.ช.เอ แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงเดินออกมาดูที่ห้องโถงในบ้านก็พบน้องชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองหมดสติอยู่แล้ว จึงรีบเข้าไปปลดผ้าออก แล้วขับรถจักรยานยนต์ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในหมู่บ้าน ห่างไปประมาณ 2 กม. ชาวบ้านจึงช่วยกันปฐมพยาบาล และนำตัวน้องชายส่ง รพ.ลำทับ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร
ขณะที่ นางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 46 ปี แม่ของ ด.ช.เอ เผยว่า สาเหตุที่ลูกชายคิดสั้น ตนเชื่อว่ามาจากปัญหาในกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนที่ลูกชายเรียนอยู่ โดยเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนทราบจากลูกว่ามีกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนบางกลุ่ม มาข่มขู่และทำร้ายลูก ก่อนหน้านี้ลูกไปเล่นเครื่องเล่นในโรงเรียน แล้วเสียหลักล้มลงทำให้เท้าไปโดนนักเรียนคนหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ กลุ่มนักเรียนดังกล่าวจึงทำร้ายชกหน้าลูกชาย จนลูกบ่นว่าไม่อยากจะไปโรงเรียนแล้วเพราะกลัวจะเกิดเรื่องอีก
วันเกิดเหตุลูกทำร้ายตัวเอง ตนต้องไปทำงานที่เกาะลันตา อ.เกาะลันตา ลูกขอว่าจะไปกับตนด้วย แต่ตนเห็นว่าหากไปด้วยจะลำบาก จึงให้ลูกอยู่บ้านกับพี่สาวและน้องชาย แต่ไม่นึกว่าลูกจะตัดสินใจทำแบบนี้ ตนเล่าเรื่องดังกล่าวให้ครูที่โรงเรียนทราบ ซึ่งทางครูรับปากว่าจะเร่งสืบหาว่าเด็กกลุ่มไหนที่มีพฤติกรรมตามที่บอก
นางแก้ว กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนอยากให้ลูกชายหายดีเท่านั้น ส่วนปัญหาภายในโรงเรียนเป็นหน้าที่ของครูที่โรงเรียนจะดำเนินการแก้ปัญหาให้ ตนยืนยันว่าลูกชายเป็นเด็กขยัน อยู่บ้านก็จะช่วยตนทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ทั้งช่วยกรีดยางขาย เวลาอยู่โรงเรียนก็ชอบช่วยเหลืองานครูที่โรงเรียน จนครูที่โรงเรียนแทบทุกคนจะรักน้องมาก แต่อาจจะทำให้เพื่อนบางคนไม่ชอบ เพราะเป็นเด็กที่ครูรัก
ด้าน นพ.สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผอ.รพ.กระบี่ กล่าวว่า ตอนนี้อาการของเด็ก ยังอยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวัง เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนเป็นระยะเวลาพอสมควร แต่อาการดีขึ้นตามลำดับ เด็กเริ่มมีอาการตอบสนองที่ดีขึ้น ขยับแขนขาได้ เวลาเรียกก็มีอาการตอบสนอง เริ่มลืมตาได้ ซึ่งตนกำชับ จนท.ให้ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาจนกว่าจะประเมินอาการได้ภายใน 48 ชั่วโมง
ในส่วนของการเยียวยาด้านสภาพจิตใจ สั่งให้ จนท.สุขภาพจิตของ รพ.คอยดูแลสภาพจิตใจของครอบครัว ทั้งแม่เด็ก พี่สาว น้องชาย รวมทั้งเมื่อเด็กหายดี จะต้องดูแลสภาพจิตใจอีกครั้ง ให้เด็กสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่ขอชื่นชม คือ ชาวบ้านที่ช่วยเหลือเด็กตั้งแต่ทราบเหตุครั้งแรก มีความรู้ในการปฐมพยาบาลทำ CPR ในเบื้องต้น จนทำให้สามารถช่วยเหลือเด็กไว้ได้ เป็นสิ่งที่ต้องให้ชุมชน ชาวบ้าน ได้เรียนรู้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อชุมชนโดยรวมเวลาเกิดเหตุขึ้นมา
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
Tags
ข่าวทั่วทิศ