หมอยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส เผย 6 เหตุผลที่ไวรัสโคโรนา มีสิทธิ์ระบาดในประเทศไทย ชี้อย่าตื่นตระหนก ทุกคนต้องช่วยกันป้องกันและลดการแพร่กระจายให้ช้าที่สุด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan
วันที่ 29 มกราคม 2563 ศ. นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan กล่าวถึงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดอย่างรวดเร็วและมีผู้ป่วยจำนวนมาก รวมกว่า 6,000 คนแล้ว ซึ่งรวดเร็วกว่าโรคซาร์ส (SARS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง หลายเท่า โดยโรคซาร์สเริ่มเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน กว่าจะไปเริ่มระบาดจริงก็เดือนกุมภาพันธ์แล้ว และระบาดมากที่สุดในเดือนมีนาคม-เมษายน ปี ค.ศ. 2003 ซึ่งก็ไม่เร็วเท่าไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ศ. นพ.ยง เชื่อว่า ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ มีสิทธิ์ระบาดในประเทศไทย ด้วยเหตุผล 6 ประการ ดังนี้
ทั้งนี้ ศ. นพ.ยง เชื่อว่า ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ มีสิทธิ์ระบาดในประเทศไทย ด้วยเหตุผล 6 ประการ ดังนี้
1. การระบาดในประเทศจีนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ป่วยปอดบวมพร้อมกัน 41 คน ซึ่งในขณะนั้นการระบาดเป็นการรับช่วงจากผู้ป่วยส่งต่อกันมาถึงระดับที่ 4 หมายความว่า ผู้ป่วยคนแรกไม่น่าจะมาจากตลาดขายของสด เนื่องจากในช่วงเวลาขณะนั้น มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่ได้มาสัมผัสตลาดนี้เลย
2. ความรุนแรงของโรคนี้มีน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับโรคซาร์ส และโรคเมอร์ส (MERS) หรือโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง โดยอัตราการตายของโรคนี้ ถ้าดูจำนวนเปอร์เซ็นต์จะมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ เชื่อว่าน่าจะน้อยกว่า 1% หรืออาจจะอยู่ที่ 1 ใน 1,000 คน จากผู้ป่วยที่เป็นนอกประเทศจีนกว่า 100 คน ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตเลย เพราะการวินิจฉัยจะทำได้ดีและรวดเร็วขึ้น และยอดผู้ป่วยที่แท้จริงจะมีมากกว่าผู้ป่วยที่รายงานมาก ตัวเลขอัตราการตายก็จะค่อย ๆ ลดลง เหมือนการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในปี 2009
3. การนับจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าอีก 1-2 เดือนต่อไป ก็จะไม่มีการนับแล้ว เช่นเดียวกับการระบาดไข้หวัดใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน พอไปถึงระยะหนึ่งก็เลิกนับจำนวน
4. เมื่อโรคมีความรุนแรงน้อย จึงมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย และยังแพร่กระจายโรคได้ มีการเดินทาง จึงทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคได้อย่างรวดเร็ว
5. ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ไม่ได้ไปสัมผัสในประเทศจีนเกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น เวียดนาม ญี่ปุ่น และเยอรมนี ดังนั้น ก็จะพบโรคนี้ได้อีกในหลายประเทศต่อไป
6. ความรุนแรงเหมือนไข้หวัดใหญ่ การระบาดจึงเหมือนไข้หวัดใหญ่ ที่พร้อมจะกระจายข้ามทวีป และกระจายไปทั่วโลก อย่างเช่นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือน ก็กระจายไปทั่วโลกแล้ว
ทั้งนี้ ศ. นพ.ยง ระบุว่า เราต้องยอมรับความจริง โรคนี้ระบาดแน่ในประเทศไทย และทุกประเทศ แต่ก็ควรมีมาตรการให้ระบาดช้าที่สุด เพื่อรอองค์ความรู้ใหม่ และข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคนี้ ซึ่งตนไม่อยากเห็นการระบาดอย่างรวดเร็ว หรือการทำงานของบุคลากรสาธารณสุข ที่เกิดความสับสน เป็นไปด้วยความยากลำบาก และไม่อยากเห็นการก่อสร้างโรงพยาบาลสนามแบบจีน แต่เมื่อเกิดการระบาด จนกระทั่งประชากรเป็นโรคแล้วมีภูมิถึงระดับหนึ่ง โรคก็จะสงบ
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรตื่นตระหนก เพราะดูจากความรุนแรงของโรคแล้ว น่าจะอยู่ในระดับของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งทุกคนจะต้องช่วยกันป้องกัน และลดการแพร่กระจายให้ช้าที่สุด เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด ลดการตื่นตระหนก ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ
เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก กระปุกดอทคอม
Tags
ข่าวทั่วทิศ