นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีกลุ่มเสี่ยง เข้ามาตรัง 4 ราย หญิงไทย 1 ราย ในพื้นที่ ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด ซักประวัติเพิ่งเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ฯเข้าตรวจสอบ สั่งกักตัวแล้ว 14 วัน ขณะ นายก อบต.ปากแจ่ม วอนอย่าชังผู้ป่วย
วันนี้ 25 มี.ค 63 เวลา 10.00 น. นางสาวมณฑา ทองขาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง แจ้งว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ห้วยยอด และ ตร.สภ.ห้วยยอด ได้ติดตามบุคคลกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัส โควิด 19 ในพื้นที่ ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จำนวน 5 ราย เป็นชาวอิตาลี จำนวน 4 ราย หญิงไทย 1 ราย ซึ่งได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยช่วง ตั้งแต่เดือน ม.ค.63 และได้อาศัยใช้ชีวิตอยู่ จ.ภูเก็ต เป็นแรมเดือนแล้ว ก่อนเดินทางมาบ้านญาติในพื้นที่ ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด ถึงบ้านดังกล่าวของหญิงไทย เมื่อช่วงเช้าของวันนี้
นางสาวมณฑา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่มีชาวอิตาลีมาพักในพื้นที่นั้น ตนได้รับทราบแล้ว ตอนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.เข้าไปตรวจแล้ว ซึ่งเป็นชาวอีตาลีจริง แต่เขามาอยู่ในประเทศไทยกับลูกชายเขาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ก่อนที่เชื้อไวรัสระบาด ตอนนี้ก็ให้กักตัว 14 วัน หลังจากชาวบ้านรู้ข่าวว่ามีชาวอีตาลีเข้ามาพักนั้น เขาก็ระวังตัว เพราะเชื่อว่าทุกคนก็กลัว โดยชาวอิตาลีเองเขาก็รับผิดชอบตัวเอง จากการสอบถามเขาก็ได้มีการป้องกันตัวเองตอนที่พักอยู่ภูเก็ต ตอนนี้ตนก็บอกชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่แล้วว่าอย่าไปคลุกคลีก่อน ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นก็มีความเสี่ยง เราก็ต้องเซฟตัวเอง
นางสาวมณฑา กล่าวด้วยว่า บางทีชาวบ้านอาจจะมองเขาว่าเป็นตัวเชื้อโรค แต่ที่จริงแล้วเขาอาจจะไม่ได้ติดเชื้อไวรัส อย่าไปแสดงอาการชัง ตอนนี้ในพื้นที่ของเราจะมีคนไปทำงานที่ภูเก็ตเยอะ บางสถานที่เขาก็ปิด ก็จะมีคนเดินทางกลับมา เราก็ห้ามเขาไม่ได้ว่าไม่ให้กลับมา เราก็ฝากประชาสมพันธ์ว่ากลับมาแล้วก็ต้องดูแลตัวเองและคนรอบข้างว่าให้กักตัว 14 วัน และให้ญาติแจ้งที่ รพ.สต ทางท้องที่จะได้เข้าไปดูแลและแนะนำว่าต้องทำยังไงบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้ ทาง อบต.ได้ดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนภายในตำบล หมู่บ้าน ขณะเดียวกันได้มีการสอนไปยังชุมชนเพื่อผลิตหน้ากาก เพื่อหลีกเลี่ยงการมารวมกลุ่มกันที่สำนักงาน อบต.ซึ่งได้รับความร่วมทือจาก ครู ก. และกลุ่มจิตอาสาด้วย.
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ตรังไทม์
Tags
ข่าวเมืองตรัง