พบร่างสาว ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน ในสภาพใบหน้าบวมปูดและผิดธรรมชาติ เบื้องต้นตำรวจคาดว่าเป็นฝีมือของสามีซึ่งชอบเมาเหล้าแล้วทะเลาะกัน แต่เจ้าตัวปฏิเสธพร้อมยืนยันเสียงแข็งผู้ตายเป็นลมเสียชีวิตเอง
วันนี้ (26 ก.ค.) ศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งมีคนเป็นลมเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 156 หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่าง นางกัณยาณี ทองสุข อายุ 38 ปี ในสภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน โดยมี นายอุทัย ทองสุข อายุ 42 ปี สามีนั่งกอดร่างภรรยา ในสภาพเมาเหล้า กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง พร้อมกับบอกว่าภรรยาเป็นลมเสียชีวิต แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบผู้ตายอยู่ในสภาพใบหน้าบวมปูดและเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงแจ้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา และแพทย์เวร รพ.รัษฎา เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีดี นาคช่วย ผู้กำกับการ สภ.รัษฎา
จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น พบผู้ตายในสภาพใบหน้ามีแผลฟกช้ำไปทั่ว ทั้งเปลือกตา 2 ข้าง ใบหน้า แก้ม โดยบวมปูดทั่วใบหน้า กรามซ้ายยุบ มีเลือดออกทางปากและจมูก เชื่อว่าสมองจะต้องได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แต่จากการสอบถาม นายอุทัย สามีผู้ตาย ยังยืนยันเสียงแข็งในสภาพเมาเหมือนเดิมว่า ภรรยาตนเองเป็นลมเสียชีวิตเองที่หน้าบ้าน ทั้งนี้ แต่ละครั้งให้การไม่เหมือนกัน
โดยครั้งแรกระบุว่า ตนเองกลับจากทำงานก่อสร้างฉาบผิวบ้านของชาวบ้านรายหนึ่งตั้งแต่เช้า โดยกลับถึงบ้านเวลาประมาณ 19.30 น. ซึ่งก่อนกลับบ้านก็ได้กินเหล้ามาจากที่ทำงานแล้ว เมื่อมาถึงบ้านยังได้คุยกับภรรยาตามปกติ แต่พอตนเองเดินไปบ้านแม่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พบว่าภรรยามีอาการชักเป็นลมอยู่ในสวนกล้วยข้างบ้าน แต่พอตำรวจถามซ้ำๆ กลับให้การไม่ตรงกัน โดยบอกว่าตนเองกลับมาจากทำงานในเวลาประมาณ 20.00 น. มาถึงพบว่าภรรยาเป็นลมหมดสติ และน้องสาวได้อุ้มภรรยามาวางไว้ในบ้านแล้ว ส่วนที่ตนเองแจ้งตำรวจช้าเพราะไม่คิดว่าภรรยาจะเสียชีวิต
จากการสอบถาม นางรำพึง ม่วงทำ อายุ 37 ปี น้องสาว นายอุทัย ให้การว่า ปกติพี่ชายชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ และพี่ชายจะมีปัญหาทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกับพี่สะใภ้ทุกวัน ตนเองมีบ้านลึกเข้าไปในข้างใน ค่ำวันนี้เมื่อพี่ชายกลับจากทำงานมาถึงก็ได้ยินเสียงทะเลาะกับพี่สะใภ้อีกครั้ง เมื่อตนเองวิ่งมาดูก็พบว่าพี่ชายกำลังอุ้มร่างพี่สะใภ้อยู่หน้าบ้าน ตนเองจึงบอกให้พี่ชายอุ้มพี่สะใภ้เข้าไปในบ้าน แต่สุดท้ายพี่สะใภ้ก็เสียชีวิต
วันนี้ (26 ก.ค.) ศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งมีคนเป็นลมเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 156 หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่าง นางกัณยาณี ทองสุข อายุ 38 ปี ในสภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน โดยมี นายอุทัย ทองสุข อายุ 42 ปี สามีนั่งกอดร่างภรรยา ในสภาพเมาเหล้า กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง พร้อมกับบอกว่าภรรยาเป็นลมเสียชีวิต แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบผู้ตายอยู่ในสภาพใบหน้าบวมปูดและเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงแจ้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา และแพทย์เวร รพ.รัษฎา เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีดี นาคช่วย ผู้กำกับการ สภ.รัษฎา
จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น พบผู้ตายในสภาพใบหน้ามีแผลฟกช้ำไปทั่ว ทั้งเปลือกตา 2 ข้าง ใบหน้า แก้ม โดยบวมปูดทั่วใบหน้า กรามซ้ายยุบ มีเลือดออกทางปากและจมูก เชื่อว่าสมองจะต้องได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แต่จากการสอบถาม นายอุทัย สามีผู้ตาย ยังยืนยันเสียงแข็งในสภาพเมาเหมือนเดิมว่า ภรรยาตนเองเป็นลมเสียชีวิตเองที่หน้าบ้าน ทั้งนี้ แต่ละครั้งให้การไม่เหมือนกัน
โดยครั้งแรกระบุว่า ตนเองกลับจากทำงานก่อสร้างฉาบผิวบ้านของชาวบ้านรายหนึ่งตั้งแต่เช้า โดยกลับถึงบ้านเวลาประมาณ 19.30 น. ซึ่งก่อนกลับบ้านก็ได้กินเหล้ามาจากที่ทำงานแล้ว เมื่อมาถึงบ้านยังได้คุยกับภรรยาตามปกติ แต่พอตนเองเดินไปบ้านแม่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พบว่าภรรยามีอาการชักเป็นลมอยู่ในสวนกล้วยข้างบ้าน แต่พอตำรวจถามซ้ำๆ กลับให้การไม่ตรงกัน โดยบอกว่าตนเองกลับมาจากทำงานในเวลาประมาณ 20.00 น. มาถึงพบว่าภรรยาเป็นลมหมดสติ และน้องสาวได้อุ้มภรรยามาวางไว้ในบ้านแล้ว ส่วนที่ตนเองแจ้งตำรวจช้าเพราะไม่คิดว่าภรรยาจะเสียชีวิต
จากการสอบถาม นางรำพึง ม่วงทำ อายุ 37 ปี น้องสาว นายอุทัย ให้การว่า ปกติพี่ชายชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ และพี่ชายจะมีปัญหาทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกับพี่สะใภ้ทุกวัน ตนเองมีบ้านลึกเข้าไปในข้างใน ค่ำวันนี้เมื่อพี่ชายกลับจากทำงานมาถึงก็ได้ยินเสียงทะเลาะกับพี่สะใภ้อีกครั้ง เมื่อตนเองวิ่งมาดูก็พบว่าพี่ชายกำลังอุ้มร่างพี่สะใภ้อยู่หน้าบ้าน ตนเองจึงบอกให้พี่ชายอุ้มพี่สะใภ้เข้าไปในบ้าน แต่สุดท้ายพี่สะใภ้ก็เสียชีวิต
ทางด้าน นายชูไชย ทองสุข อายุ 64 ปี พ่อของ นายอุทัย ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน กล่าวว่า เดิมลูกชายและลูกสะใภ้ทำงานก่อสร้างถนน งานชลประทาน พื้นที่ จ.พัทลุง แต่ทั้งคู่กลับมาอยู่ที่ จ.ตรัง ได้ประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมาในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นหญิงอายุ 7 ขวบ ส่วนคนเล็กเป็นผู้ชาย อายุ 4 ขวบ ขณะเกิดเหตุก็อยู่กับพ่อกับแม่ ปกติลูกชายชอบดื่มเหล้า และมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับลูกสะใภ้บ่อยครั้ง จนตนเองไม่อยากฟัง และไม่อยากรำคาญก็จะไม่สนใจฟังปิดประตูเข้าไปนอนอยู่ในบ้าน ในวันนี้ก็เช่นกัน ลูกชายกลับมาก็มีปากเสียงทะเลาะกันอีก ซึ่งปกติแม้ไม่ดื่มเหล้า ไม่ได้ทะเลาะกัน ทั้งคู่ก็ชอบพูดจาเสียงดังใส่กันเป็นประจำ วันนี้ตนเองไม่ได้สนใจ แต่พอรู้ว่าลูกสะใภ้เสียชีวิตก็ออกมาดู แต่ลูกชายบอกว่าลูกสะใภ้เป็นลมเสียชีวิตเอง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อเกิดจากการกระทำของสามี จึงควบคุมตัวสามีไปสอบปากคำ รวมทั้งคนในครอบครัวด้วย ขณะเดียวกัน ได้นำศพผู้ตายไปตรวจพิสูจน์ และเอกซเรย์อย่างละเอียดที่ รพ.รัษฎา เพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนต่อไป
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อเกิดจากการกระทำของสามี จึงควบคุมตัวสามีไปสอบปากคำ รวมทั้งคนในครอบครัวด้วย ขณะเดียวกัน ได้นำศพผู้ตายไปตรวจพิสูจน์ และเอกซเรย์อย่างละเอียดที่ รพ.รัษฎา เพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนต่อไป
Tags
ข่าวเมืองตรัง