คนร้ายชักปืน 9 มม. ยิงใส่รั้วบ้านได้รับความเสียหาย ตำรวจตั้ง 2 ปม คาดปม เร่งตรวจกล้องวงจรปิด
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ร.ต.อ.สุพจน์พงษ์ ช่วยดู รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รั้วบ้านได้รับความเสียหาย ที่บ้านเลขที่ 56 ถนนพระราม 6 ซอย 2 (ซอยตรอกปลา) ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จึงรุดตรวจสอบพร้อมสายตรวจ และฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณต้นซอยมีบ้านเรือนปลูกติดกันหลายหลัง บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านปูนสูง 2 ชั้น รั้วเหล็กหน้าบ้านพบรอยกระสุนจำนวน 2 จุด ข้างบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นร้านขายข้าวแกงบริเวณฐานตู้ขายกับข้าวพบรอยกระสุนอีก 1 จุด จากการตรวจสอบข้างเคียงพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ข้างบ้าน 1 ปลอก และในท่อระบายน้ำอีก 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นางหนูกลม (สงวนนามสกุล) ให้การว่า เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) เวลาประมาณ 22.00 น. ตนเองและครอบครัวได้ขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ของบ้าน เนื่องจากมีฝนตกหนักหลังคาบ้านก็รั่ว จากนั้นได้ยินเสียงดังขึ้นหลายนัด แต่ตนคิดว่าเป็นเสียงจุดประทัด เพราะบ้านใกล้ ๆ กันจุดประทัดบ่อยๆ พอรุ่งเช้าตนเองออกมาเปิดประตูบ้านก็ยังไม่เอะใจอะไร แต่เหลือบไปเห็นประตูรั้วบ้านมีรอยทะลุคล้ายโดนปืนยิง 2 รู จึงได้ชวนเพื่อบ้านมาดู พบว่ามีปลอกกระสุนตกอยู่จึงได้โทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
นางหนูกลม กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุการก่อเหตุของคนร้ายตนเองก็ไม่แน่ใจเพราะตนเองก็ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร มีกรณีเดียวคือ ผู้รับเหมาที่ก่อสร้างบ้านหลังนี้มาทวงเงินประกัน 1 แสนบาท แต่ตนไม่ให้เนื่องจากบ้านหลังนี้ยังมีปัญหาฝนตกลงมาหลังคารั่ว ต้องการให้มาแก้ไขแต่ทางผู้รับเหมาก็ไม่มาแก้ไขให้ ผ่านไป 5 เดือนก็ไม่มา ตนจึงแจ้งไปยังผู้รับเหมาว่าตนจะหาช่างมาแก้ไขเองแต่จะเอาเงินประกันส่วนนี้จ่ายไป จึงคาดว่าน่าจะเป็นมูลเหตุให้คนร้ายก่อเหตุครั้งนี้ ด้วยบ้านหลังนี้ก่อนหน้านี้เป็นบ้านของพ่อกับแม่ซึ่งอยู่มากว่า 10 ปี จากนั้นตนเองได้รื้อและสร้างใหม่โดยจ้างผู้รับเหมาทั้งหมด 3 ล้าน 1 แสนบาท ซึ่งได้จ่ายชำระไปหมดแล้ว ยังเหลือแต่เงินประกัน เพราะตนเห็นว่าบ้านยังมีปัญหาและยังอยู่ในสัญญา และได้เข้าอยู่มา 5 เดือนแล้ว
เบื้องต้นตำรวจตั้งปมไว้ 2 ประเด็น ทั้งการขัดแย้งกับผู้รับเหมาสร้างบ้าน หรือกลุ่มคู่อริตามไล่ยิงกัน อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในซอยตอกปลาและถนนวิเศษกุลที่คาดว่าเป็นเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี เพื่อเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป.