ชาวสวนยางตรังแห่เข้าคิวตรวจสอบบัญชีเงินประกันรายได้ หวังนำมาจุนเจือครอบครัว หลังประสบภัยน้ำท่วม และกรีดยางไม่ได้ แต่ต่างต้องผิดหวังเพราะได้แค่ไม่กี่ร้อยบาท ขณะที่ราคายางล่าสุดก็ตกต่ำลงมาอีกครั้งแล้ว
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาห้วยยอด จ.ตรัง พบว่าได้มีชาวสวนยาง พร้อมสมุดบัญชีเงินฝาก และบัตรเอทีเอ็ม ไปเข้าแถวยาวเหยียดเพื่ออัปสมุดตรวจสอบยอดเงินในบัญชีว่าเงินประกันรายได้ชาวสวนยางเข้าบัญชีแล้วหรือไม่ หลังรัฐบาลประกาศจะโอนเข้าบัญชีชาวสวนยางให้ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยบางส่วนผิดหวังเงินยังไม่เข้า ทั้งที่เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง แต่บางส่วนที่ผิดหวังเงินไม่เข้า เพราะเป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ แม้จะไปขึ้นทะเบียนกับ กยท.ไว้แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้ชาวสวนยางส่วนมากเงินจะเข้าแล้ว แต่ก็ผิดหวังเพราะได้เพียงเล็กน้อยไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลจ่ายเพียงแค่ส่วนต่าง เช่น บางรายสวนยางเนื้อที่ 22 ไร่ ได้เพียง 500 กว่าบาท บางราย 3 ไร่ ได้ 200 กว่าบาท หรือบางราย 10 ไร่ ได้เงิน 800 บาท ทั้งที่ทุกคนหวังจะนำเงินก้อนนี้มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว จากผลกระทบที่เกิดจากน้ำท่วมใหญ่ 2 ครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งยังเกิดฝนตกกรีดยางไม่ได้มายาวนาน และพื้นที่สวนยางจำนวนมากถูกน้ำท่วมขัง หวั่นต้นยางตาย และถ้วยรับน้ำยางลอยไปกับน้ำ
ขณะเดียวกัน ช่วงนี้พบว่าราคายางก็เริ่มตกต่ำลงมาอีกระลอก โดยล่าสุดราคาน้ำยางสดเหลือกิโลกรัมละ 41-43 บาทเท่านั้น จากเดิมเคยขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 54 บาท เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น ชาวสวนยางจึงเรียกร้องขอให้รัฐบาลช่วยประกันราคายางที่แน่นอนให้ เพราะจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่าการจ่ายเงินชดเชย หรือเงินประกันรายได้ เช่น ประกันราคาน้ำยางสดไม่ให้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 55-60 บาท ซึ่งชาวสวนก็พอใจแล้ว และจะได้ทุกคนเหมือนกันหมด ทั้งเจ้าของสวน ลูกจ้างกรีดยาง รวมทั้งสวนยางทั้งที่มีเอกสารสิทธิ และไม่มีเอกสารสิทธิ


วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาห้วยยอด จ.ตรัง พบว่าได้มีชาวสวนยาง พร้อมสมุดบัญชีเงินฝาก และบัตรเอทีเอ็ม ไปเข้าแถวยาวเหยียดเพื่ออัปสมุดตรวจสอบยอดเงินในบัญชีว่าเงินประกันรายได้ชาวสวนยางเข้าบัญชีแล้วหรือไม่ หลังรัฐบาลประกาศจะโอนเข้าบัญชีชาวสวนยางให้ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยบางส่วนผิดหวังเงินยังไม่เข้า ทั้งที่เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง แต่บางส่วนที่ผิดหวังเงินไม่เข้า เพราะเป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ แม้จะไปขึ้นทะเบียนกับ กยท.ไว้แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้ชาวสวนยางส่วนมากเงินจะเข้าแล้ว แต่ก็ผิดหวังเพราะได้เพียงเล็กน้อยไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลจ่ายเพียงแค่ส่วนต่าง เช่น บางรายสวนยางเนื้อที่ 22 ไร่ ได้เพียง 500 กว่าบาท บางราย 3 ไร่ ได้ 200 กว่าบาท หรือบางราย 10 ไร่ ได้เงิน 800 บาท ทั้งที่ทุกคนหวังจะนำเงินก้อนนี้มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว จากผลกระทบที่เกิดจากน้ำท่วมใหญ่ 2 ครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งยังเกิดฝนตกกรีดยางไม่ได้มายาวนาน และพื้นที่สวนยางจำนวนมากถูกน้ำท่วมขัง หวั่นต้นยางตาย และถ้วยรับน้ำยางลอยไปกับน้ำ
ขณะเดียวกัน ช่วงนี้พบว่าราคายางก็เริ่มตกต่ำลงมาอีกระลอก โดยล่าสุดราคาน้ำยางสดเหลือกิโลกรัมละ 41-43 บาทเท่านั้น จากเดิมเคยขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 54 บาท เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น ชาวสวนยางจึงเรียกร้องขอให้รัฐบาลช่วยประกันราคายางที่แน่นอนให้ เพราะจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่าการจ่ายเงินชดเชย หรือเงินประกันรายได้ เช่น ประกันราคาน้ำยางสดไม่ให้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 55-60 บาท ซึ่งชาวสวนก็พอใจแล้ว และจะได้ทุกคนเหมือนกันหมด ทั้งเจ้าของสวน ลูกจ้างกรีดยาง รวมทั้งสวนยางทั้งที่มีเอกสารสิทธิ และไม่มีเอกสารสิทธิ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์