เปิดภาพวงจรปิดวินาทีรถดับเพลิงเทศบาลเมืองกันตัง เบรกแตกก่อนถึงสี่แยกกลางเมือง แต่โชคดีที่คนขับตัดสินใจหักหลบลงข้างทางได้ทัน ก่อนที่จะพุ่งชนรถหลายคันที่จอดติดไฟแดงอย่างเฉียดฉิว
เปิดภาพวงจรปิดวินาทีรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง เกิดเบรกแตกหวิดพุ่งชนรถที่จอดติดไฟแดงอยู่ด้านหน้า โดยภายในคลิปเป็นช่วงที่รถหลายคันวิ่งมาเพื่อติดไฟแดง มีทั้งรถกระบะ และรถจักรยานยนต์จอดอยู่หลายคัน ต่อมา ได้มีรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองกันตัง ขับมาแต่เกิดเบรกแตก ทำให้คนขับตัดสินใจหักหลบซ้ายลงข้างทางอย่างเฉียดฉิว เพื่อไม่ให้พุ่งชนกับรถที่จอดติดไฟแดงอยู่ด้านหน้า ซึ่งคนขับยอมหักพวงมาลัยลงคูข้างทางที่กำลังติดตั้งป้ายปิดก่อสร้างถนนชำรุด เหตุเกิดที่บริเวณสี่แยกปากล่าง ทางเข้าโรงพยาบาลกันตัง เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 21 กันยายน 2564
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณสี่แยกไฟแดง บนถนนตรังคภูมิ ในเขตเทศบาลเมืองกันตัง และได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ คือนางละไม ถาวรพันธุ์ อายุ 70 ปี กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองนั่งอยู่หน้าบ้านกับลูก และเกิดรถดับเพลิงหักหลบลงในคูหน้าบ้านอย่างจังเสียงดังสนั่น ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก และขณะนั้นตนเองนั่งอยู่หน้าบ้าน เห็นเหตุการณ์ตลอด จึงได้ลุกขึ้นวิ่งหนีเพราะกลัวรถจะพุ่งใส่ แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศูนย์งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกันตัง เพื่อเข้าพบกับ นายวิทยา บุญศรี อายุ 41 ปี พนักงานขับรถดับเพลิง งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกันตัง ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว โดยมี นายยืนยง วงศ์เจริญ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นพนักงานดับเพลิงสังกัดเดียวกันเป็นผู้นั่งข้าง โดยทั้งคู่เล่าในช่วงวินาทีเกิดเหตุว่า ขณะนั้นได้ขับรถดับเพลิงออกไปวอร์มตามปกติทุกวัน ซึ่งพวกตนไม่ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร แต่คาดว่าจะเป็นระบบเบรก เพราะอย่างอื่นไม่มีอะไรเสีย และไม่มีอะไรสึกหรอ ขณะที่รถดับเพลิงของเทศบาลเองมีการตรวจเช็กอยู่เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นนายวิทยา ทราบว่าเบรกมีปัญหาแล้ว เพราะเมื่อเหยียบซ้ำๆ เบรกไม่ตอบสนอง ส่วนบริเวณด้านหน้าขวาของรถดับเพลิงมีรถกระบะ และรถเก๋งจอดอยู่ ส่วนด้านหน้าซ้ายมีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่หลายคัน ซึ่งตอนนั้นนายวิทยาก พยายามเทิร์นเกียร์ เปลี่ยนจากเกียร์สูงมาเป็นเกียร์ต่ำเพื่อชะลอความเร็ว และควบคุมรถดับเพลิงให้ได้มากที่สุด โดยมีเวลาตัดสินใจแค่ประมาณ 3 วินาที เพื่อ 1.รถดับเพลิงต้องไม่เสียหายเยอะ 2.ผู้ที่ใช้รถร่วมถนนกับตนต้องไม่เป็นอะไร และ 3.ทำยังไงเพื่อไม่ให้ด้านหน้าเกิดอุบัติเหตุร่วมกับตน
ดังนั้น นายวิทยา จึงตัดสินใจหักพวงมาลัย และก่อนหน้านั้นคิดจะหักเข้าไปในป่า แต่เมื่อหันไปดูนายยืนยง เพื่อนที่นั่งร่วมมาด้วย กลัวเพื่อนจะไปกระแทกต้นไม้ คนนั่งข้างต้องเจ็บแน่นอน และในขณะนั้นคิดว่าทำยังไงได้ต้องเซฟตี้ความปลอดภัยให้ได้มากที่สุด ซึ่งความเร็วในขณะนั้นอยู่ที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นายวิทยา จึงตัดสินใจหักรถดับเพลิงลงข้างทาง ทำให้ได้รับบาดเจ็บตรงที่บริเวณหน้าอก และศีรษะเพียงเล็กน้อย ส่วนนายยืนยง เพื่อนที่นั่งข้างบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะเล็กน้อย แต่ความเสียหายของรถดับเพลิงค่อนข้างเยอะ
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ นายวิทยา จึงอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ถึงผู้ใช้รถใช้ถนนว่า เราไม่สามารถบอกได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นตอนไหน อย่างไร คำว่าบนท้องถนนวิชาไม่มีคำว่าจบ และคนขับรถไม่มีคนไหนเก่ง แต่สำหรับคนขับรถอย่างตนเองต้องขอบคุณไดร์เวอร์ของ SCG ที่ได้ส่งเข้าไปอบรมเรื่องการขับรถ และได้เข้าร่วมโครงการต่างๆ มาตลอด เมื่อเจอเหตุการณ์ขึ้นจึงทำให้ตนเองสามารถตัดสินใจได้เป็นขั้นตอน และตั้งสติได้ในเสี้ยววินาที
เปิดภาพวงจรปิดวินาทีรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง เกิดเบรกแตกหวิดพุ่งชนรถที่จอดติดไฟแดงอยู่ด้านหน้า โดยภายในคลิปเป็นช่วงที่รถหลายคันวิ่งมาเพื่อติดไฟแดง มีทั้งรถกระบะ และรถจักรยานยนต์จอดอยู่หลายคัน ต่อมา ได้มีรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองกันตัง ขับมาแต่เกิดเบรกแตก ทำให้คนขับตัดสินใจหักหลบซ้ายลงข้างทางอย่างเฉียดฉิว เพื่อไม่ให้พุ่งชนกับรถที่จอดติดไฟแดงอยู่ด้านหน้า ซึ่งคนขับยอมหักพวงมาลัยลงคูข้างทางที่กำลังติดตั้งป้ายปิดก่อสร้างถนนชำรุด เหตุเกิดที่บริเวณสี่แยกปากล่าง ทางเข้าโรงพยาบาลกันตัง เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 21 กันยายน 2564
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณสี่แยกไฟแดง บนถนนตรังคภูมิ ในเขตเทศบาลเมืองกันตัง และได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ คือนางละไม ถาวรพันธุ์ อายุ 70 ปี กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองนั่งอยู่หน้าบ้านกับลูก และเกิดรถดับเพลิงหักหลบลงในคูหน้าบ้านอย่างจังเสียงดังสนั่น ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก และขณะนั้นตนเองนั่งอยู่หน้าบ้าน เห็นเหตุการณ์ตลอด จึงได้ลุกขึ้นวิ่งหนีเพราะกลัวรถจะพุ่งใส่ แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศูนย์งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกันตัง เพื่อเข้าพบกับ นายวิทยา บุญศรี อายุ 41 ปี พนักงานขับรถดับเพลิง งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกันตัง ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว โดยมี นายยืนยง วงศ์เจริญ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นพนักงานดับเพลิงสังกัดเดียวกันเป็นผู้นั่งข้าง โดยทั้งคู่เล่าในช่วงวินาทีเกิดเหตุว่า ขณะนั้นได้ขับรถดับเพลิงออกไปวอร์มตามปกติทุกวัน ซึ่งพวกตนไม่ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร แต่คาดว่าจะเป็นระบบเบรก เพราะอย่างอื่นไม่มีอะไรเสีย และไม่มีอะไรสึกหรอ ขณะที่รถดับเพลิงของเทศบาลเองมีการตรวจเช็กอยู่เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นนายวิทยา ทราบว่าเบรกมีปัญหาแล้ว เพราะเมื่อเหยียบซ้ำๆ เบรกไม่ตอบสนอง ส่วนบริเวณด้านหน้าขวาของรถดับเพลิงมีรถกระบะ และรถเก๋งจอดอยู่ ส่วนด้านหน้าซ้ายมีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่หลายคัน ซึ่งตอนนั้นนายวิทยาก พยายามเทิร์นเกียร์ เปลี่ยนจากเกียร์สูงมาเป็นเกียร์ต่ำเพื่อชะลอความเร็ว และควบคุมรถดับเพลิงให้ได้มากที่สุด โดยมีเวลาตัดสินใจแค่ประมาณ 3 วินาที เพื่อ 1.รถดับเพลิงต้องไม่เสียหายเยอะ 2.ผู้ที่ใช้รถร่วมถนนกับตนต้องไม่เป็นอะไร และ 3.ทำยังไงเพื่อไม่ให้ด้านหน้าเกิดอุบัติเหตุร่วมกับตน
ดังนั้น นายวิทยา จึงตัดสินใจหักพวงมาลัย และก่อนหน้านั้นคิดจะหักเข้าไปในป่า แต่เมื่อหันไปดูนายยืนยง เพื่อนที่นั่งร่วมมาด้วย กลัวเพื่อนจะไปกระแทกต้นไม้ คนนั่งข้างต้องเจ็บแน่นอน และในขณะนั้นคิดว่าทำยังไงได้ต้องเซฟตี้ความปลอดภัยให้ได้มากที่สุด ซึ่งความเร็วในขณะนั้นอยู่ที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นายวิทยา จึงตัดสินใจหักรถดับเพลิงลงข้างทาง ทำให้ได้รับบาดเจ็บตรงที่บริเวณหน้าอก และศีรษะเพียงเล็กน้อย ส่วนนายยืนยง เพื่อนที่นั่งข้างบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะเล็กน้อย แต่ความเสียหายของรถดับเพลิงค่อนข้างเยอะ
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ นายวิทยา จึงอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ถึงผู้ใช้รถใช้ถนนว่า เราไม่สามารถบอกได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นตอนไหน อย่างไร คำว่าบนท้องถนนวิชาไม่มีคำว่าจบ และคนขับรถไม่มีคนไหนเก่ง แต่สำหรับคนขับรถอย่างตนเองต้องขอบคุณไดร์เวอร์ของ SCG ที่ได้ส่งเข้าไปอบรมเรื่องการขับรถ และได้เข้าร่วมโครงการต่างๆ มาตลอด เมื่อเจอเหตุการณ์ขึ้นจึงทำให้ตนเองสามารถตัดสินใจได้เป็นขั้นตอน และตั้งสติได้ในเสี้ยววินาที
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
Tags
ข่าวเมืองตรัง