ตำรวจตรังรวบตัวคนร้ายงัดร้านมือถือพร้อมของกลาง


 หญิงใจเด็ด! เผชิญคนงัดร้าน ใช้สติ เจรจาจนโจรยอมกราบเท้า  วอนตร.ขยายผล


เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์และทำร้ายเจ้าของร้าน ภายในร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือกุ้งโมบาย เลขที่ 20/29-30 ถนนท่ากลาง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง หลังจากเกิดเหตุฝ่ายสืบสวน ภ.จว.ตรัง และฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองตรังได้ทำการเร่งติดตามผู้ก่อเหตุจนสามารถจับกุมนายวรวัฒน์ สุทธิคณะ อายุ 25 ปี ตามหมายจับ ศาล จ.ตรัง ที่ 311/2564 ลงวันที่ 15 ธ.ค. พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน สามารถจับกุมได้ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ร้านกุ้งโมบายได้พบเจ้าของร้านที่ประสบเหตุได้นำไปดูร่องรอยที่คนร้ายงัดแงะเข้ามา จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุที่นายวรวัฒน์ สุทธิคณะ ผู้ต้องหาได้ใช้เสื้อผ้าปิดบังใบหน้า งัดหลังคากระเบื้องด้านหลังร้าน ก่อนเข้ามายังบริเวณส่วนที่จำหน่ายมือถือ พร้อมทั้งใช้ไม้กวาด ผลักกล้องวงจรปิดจำนวนกว่า 10 ตัว ส่องขึ้นบนเพดาน เพื่อไม่ให้บันทึกภาพได้ ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายนอนหลับอยู่ภายในห้องเก็บสินค้า พร้อมด้วยลูกชายวัย 7 ขวบ ก่อนที่คนร้ายจะไปพบกับ 2 แม่ลูก


ทำให้ผู้เสียหายตกใจตื่นแต่ยังคงมีสติ พูดคุยกับคนร้ายที่กำลังถือปืนกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพและเสียงไว้ได้ทั้งหมด ก่อนที่คนร้ายจะเข้ามาพูดคุย และบอกว่ามีคนใช้ให้มา และได้มานั่งพูดคุยกับผู้เสียหาย ซึ่งคนร้ายบอกว่าน่าจะมาผิดคน และขอโทษเจ้าของร้าน พร้อมทั้งกราบเท้า และสั่งอย่าแจ้งตำรวจ โดยนายวรวัฒน์ไปรื้อค้นเอาเศษเหรียญจำนวนกว่า 3,000 บาท จากลิ้นชักไป และเอาโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่องไป ในตอนนั้นเองคนร้ายได้โทรหาบุคลต้องสงสัยบอกว่า ให้ทำยังไงต่อ ซึ่งเจ้าของร้านได้ไปยืนที่ประตูหน้าห้อง และพูดคุยกับคนร้ายว่าทำไมไม่กลับ จะหาอะไร ทันใดนั้นคนร้ายได้เข้ามาในห้องและใช้อาวุธตบเข้าไปที่ขมับซ้าย 1 ครั้ง จนเลือดอาบ ก่อนที่คนร้ายจะไปรื้อค้น ฃก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 12 โปรแม็กซ์พร้อมเงินสดในกระเป๋าจำนวนหนึ่ง ก่อนจะออกจากบ้านหลบหนีไป ซึ่งระยะเวลาที่คนร้ายอยู่ในบ้าน และพูดคุยกันกว่า 1 ชั่วโมง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา 

เจ้าของร้าน เล่าว่า หลังจากคนร้ายถูกจับกุม ความรู้สึกของตนและชาวบ้านในละแวกนี้ ยังติดใจอยู่ที่ว่าทำไมตำรวจไม่ขยายผลต่อว่าคนร้ายร้ายนี้ทำงานให้ใคร ถูกถูกใครสั่งให้เข้ามาในร้านของตน ซึ่งจากการดูพฤติการณ์คนร้ายแล้ว รู้ดีว่ากล้องวงจรปิดอยู่ตรงไหน และคนร้ายพยายามโทรคุยกับบุคลอื่นอยู่ตลอด ตนเชื่อว่าต้องมีคนสั่งมาให้ทำ ที่ผ่านมาตนไม่เคยติดหนี้นอกระบบ ตนอยากให้ตำรวจขยายผลตามหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี เพราะตอนนี้สร้างความหวาดกลัวให้กับตนเองเป็นอย่างมาก ส่วนตนเองในขณะเกิดเหตุยอมรับว่าตกใจเป็นอย่างมาก แต่พยายาม ตั้งสติและใจเย็น และพยายามปกป้องลูกให้ได้ โชคดีที่คนร้ายไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิง เพียงแค่ใช้ปืนตบศีรษะเย็บ 4 เข็ม และหลังจากเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์มือถือคืนกลับมา 1 เครื่อง โดยติดตามได้จากแอพโทรศัพท์ หลังจากคนร้ายนำไปซุกซ่อนไว้ในป่าย่านบางรัก


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหา เคยติดคุกคดีลักทรัพย์ประมาณ 4 ปี และได้พ้นโทษออกมาช่วงเดือน ก.ค.64 ที่ผ่านมา หลังจากพ้นโทษมา ได้ก่อเหตุหลายครั้งหลายพื้นที่ทั้งขโมยรถซาเล้ง ภายในกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จ.ตรัง ขโมยของภายในบ้านพักบ้านพักพนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จ.ตรัง และเป็นคนเดียวกับผู้ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในในโชว์รูมกระเบื้องไดนาสตี ไทล์ท้อป สาขาตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกจับกุมในที่สุด.



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ศรีตรังเคเบิ้ลทีวี”คนข่าวท้องถิ่น”

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า