ทายาทสืบทอดร้านขนมไทยอายุนับ 100 ปี ในเมืองย่านตาขาว จ.ตรัง


  ทายาทรุ่นที่ 3 สืบทอดร้านขายขนมไทยอายุเก่าแก่นับ 100 ปี ในเมืองย่านตาขาว ยังคงมีออเดอร์เข้ามาเยอะจนผลิตแทบไม่ทัน แม้จะเจอสถานการณ์โควิด-19 เพราะส่วนใหญ่เน้นทำมือ และต้องมีคุณภาพ


ที่ร้านจีเป้า ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นร้านขายขนมไทย มีอายุเก่าแก่นับ 100 ปี จนปัจจุบันได้สืบทอดกันมาจนถึงทายาทรุ่นที่ 3 โดยนายเดช ณรงค์ฤทธิ์ อายุ 39 ปี ทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นลูกของ "จีเป้า" นางจินดา ณรงค์ฤทธิ์ อายุ 70 ปี ได้เปิดห้องครัวเชิญผู้สื่อข่าวดูวิธีการทำขนมไทย ตั้งแต่ขนมทองหยอด ขนมเม็ดขนุน ฝอยทอง ซึ่งเป็นขนมที่ล้วนใช้ทักษะความชำนาญอย่างพิถีพิถันกว่าจะได้ขนม แต่ละชิ้นแต่ละอย่าง ต้องใช้เวลา 2-3 วันก็มี

ในส่วนของกรรมวิธีขั้นตอนในการทำขนมไทยจะเน้นการทำขนมแบบดั้งเดิม เช่น การทำทองหยอด ซึ่งจะมีแต่ไข่แดงและน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก เอาเฉพาะไข่แดงของไข่เป็ดและไข่ไก่ จากนั้นนำไข่แดงมาตีให้เข้ากัน ส่วนน้ำตาลนำมาเคี่ยวในกระทะตั้งไฟอ่อนๆ และนำส่วนผสมที่ผสมกันเรียบร้อยแล้วมาปั้นเป็นลูกด้วยมือ และหยอดลงในน้ำตาลที่เคี่ยวในกระทะทีละลูก และปัจจุบันได้ประยุกต์ใช้ช้อนชาปั้นเป็นลูกแล้วหยอดทีละลูก

นายเดช ณรงค์ฤทธิ์ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ขนมนี้ขายมานานเป็น 100 ปีแล้ว ที่คนจะนิยมซื้อและถามหากันจะเป็นขนมทองหยอด ข้าวเหนียวมูน ทองหยิบ เม็ดขนุน ซึ่งคนในอำเภอย่านตาขาวจะรู้จักขนมร้านจีเป้าเป็นอย่างดี วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำขนมไทยจะมีไข่เป็ด ไข่ไก่ น้ำตาล น้ำกะทิ ซึ่งในแต่ละวันจะใช้ไข่เป็ดประมาณวันละ 300 ฟอง จะขายหมดทุกวัน รวมทั้งผ่านช่องทางออนไลน์และขายส่งต่างจังหวัดด้วย

ทั้งนี้ ในสถานการณ์ที่วัตถุดิบมีราคาขึ้นทุกอย่าง ตนเองในฐานะพ่อค้าทำขนมไทยค่อนข้างที่จะหนักใจ แต่ด้วยความสงสารผู้บริโภค ไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งราคาที่ขายเริ่มต้น 10-20 บาท ขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 03.00-21.00 น. ในส่วนของข้าวเหนียวมูน จะขายห่อละ 10 บาท ในแต่ละวันจัดเตรียมไว้ 20-30 กิโลกรัม ในส่วนของข้าวเหนียวมะม่วง จะเป็นมะม่วง 3 ชนิด ซึ่งช่วงนี้พบว่ามะม่วงมีราคาถูก นำมาเพิ่มมูลค่าเพื่อช่วยชาวสวนด้วย เมื่อนำมาทำข้าวเหนียวมะม่วง จะเน้นอร่อย เนื้อเยอะ มีรสชาติหวานหอม ต่อวันจะใช้ข้าวเหนียวประมาณ 40-50 กิโลกรัม เน้นนึ่งข้าวเหนียวด้วยเตาถ่าน ขายกล่องละราคา 50 บาท

นอกจากนั้น ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเทศกาล นอกจากลูกค้าประจำ จะมีลูกค้าหน้าใหม่มาซื้อขนมเป็นจำนวนมาก บางคนมีมาซื้อขนมที่ร้านของตนเองเป็นร้อยชิ้น เพื่อเอาไปจัดในงานมงคลบ้าง หรืองานทำบุญขึ้นบ้านใหม่บ้าง ส่วนในช่วงที่ทางจังหวัดห้ามจัดงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ก็อาจมียอดลดลงบ้าง แต่ยังขายได้อยู่ เพราะว่าจะมีคนไปเยี่ยมคนไข้ หรือที่โรงพยาบาลสถานที่กักตัวจะมาสั่งขนมจากร้านเพื่อนำไปเยี่ยมผู้ป่วยเช่นกัน

ในส่วนของกรรมวิธีขั้นตอนในการทำขนมไทยจะเน้นการทำขนมแบบดั้งเดิม และมีการผสมผสานไปด้วย มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เนื่องจากบางครั้งมีออเดอร์ลูกค้าสั่งเข้ามาเยอะก็ผลิตไม่ทัน แต่ส่วนใหญ่จะเน้นทำมือทั้งหมด หลังจากนี้คิดว่าจะมีการต่อยอด เตรียมจะเปิดสอนวิธีการทำขนมไทย เพราะเห็นว่าวิธีการทำค่อนข้างมีขั้นตอนเยอะ ละเอียด และกลัวว่าขนมไทยจะหายไป

ทั้งนี้ ตนเองซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 อยากบอกแก่ลูกค้า หรือทุกๆ คนว่า ขนมไทยมีประโยชน์และมีสารเจือปนน้อยมาก วิธีการทำละเอียดละอ่อน มีความอดทนสูง ต้องใช้ใจทำ ต้องมีความละเอียด และต้องมีความชอบส่วนตัวด้วย ซึ่งในการทำขนมแต่ละชิ้นแต่ละอย่าง ใช้เวลาในการทำเป็นชั่วโมง กว่าจะได้ขนมออกมาให้ได้กินกัน บางอย่างก็ 2-3 วันเลยทีเดียว กว่าจะได้ขนมชนิดนี้ขึ้นมา

หากลูกค้าสนใจติดต่อทาง Facebook ชื่อ Dej Naronglit หรือเบอร์โทรศัพท์ 09-3689-2442  และยังมีส่งต่างจังหวัดด้วย ที่ส่งไปไกลสุดคือ กรุงเทพฯ จัดส่งแบบธรรมดา หรือแบบแช่แข็งก็ได้






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า