วันนี้ (1 ก.ค.) นายทรรศยวรรธ โพธิ์ศรี หรือโกแก่ อายุ 49 ปี และ นางจิระพันธ์ โพธิ์ศรี หรือเจ๊พัน อายุ 45 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของขนมหม้อแกงพรก (พรกภาษาใต้หมายถึงกะลา) ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 5 บ้านหนองศรีจันทร์ ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง ผุดไอเดียทำขนมหม้อแกงทุเรียนบ้าน เป็นเจ้าแรกของจังหวัดตรัง จนมีผลตอบรับที่ดีเกินคาด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่มีอาชีพหลักคือ กรีดยางพารา ก่อนจะได้ลองหันมาทำขนมขายหลังจากได้ไปเรียนการทำขนมหม้อแกง มาจากวิทยาลัยสารพัดช่างตรัง
ซึ่งในตอนแรกได้ทำขนมหม้อแกงในถาด โดยมีต้นทุนที่ต้องหาซื้อถาดมาใช้ในราคาใบละ 7 บาท
มาเห็นพรก หรือกะลามะพร้าวเหลือใช้ทิ้งอยู่จำนวนมาก จึงได้ลองนำมาทำขนมหม้อแกงในกะลา แล้วนำไปวางขายที่หน้าโรงพยาบาลรัษฎา รวมทั้งตลาดนัดต่างๆ ปรากฏว่า มีเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ทั้งขนมหม้อแกงเผือก และขนมหม้อแกงกลอย
ล่าสุด จึงได้ลองนำทุเรียนบ้านที่รุ่นปู่ย่าตายายปลูกเอาไว้ข้างบ้าน และใช้วัตถุดิบต่างๆ ที่มาจากในชุมชนทั้งหมด เช่น ไข่เป็ด แป้งสาลี น้ำกะทิ น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทรายขาว น้ำมันหอมเจียว เกลือ มาปรุงเป็นขนมหม้อแกงทุเรียนบ้าน โดยมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากและใช้เวลาในการทำครั้งละประมาณ 3-4 ชั่วโมง เน้นรสชาติไม่หวานเกินเพื่อสุขภาพ พร้อมทั้งใช้วัตถุดิบสด ใหม่ สะอาด ปลอดสารพิษ และไม่มีสิ่งเจือปนทั้งนี้ ขนมหม้อแกงเผือก จะขายอยู่ที่ราคา 3 กะลา 100 บาท ขนมหม้อแกงกลอย ขายกะลาละ 40 บาท และขนมหม้อแกงทุเรียนบ้าน ขายกะลาละ 50 บาท ซึ่งทางร้านจะทำวันละ 3 ชุด ชุดละประมาณ 60 กะลา และขายหมดเกลี้ยงทุกวัน โดยที่ขนมหม้อแกงสูตรต่างๆ เหล่านี้จะสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานประมาณ 5 วัน
สำหรับขนมหม้อแกงทุเรียนบ้านในพรก หรือในกะลา เจ้าแรกของจังหวัดตรัง นอกจากจะมาสั่งซื้อได้ที่ร้านในตำบลหนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง แล้ว ยังให้บริการจัดส่งถึงบ้านทั้งในชุมชนและอำเภอใกล้เคียง หรือมีการไปออกบูทตามงานต่างๆ หรือสั่งซื้อได้ทางเฟซบุ๊ก “ทรรศยวรรธ โพธิ์ศรี” ทางเพจ “ขนมหม้อแกงเมืองพระยา” หรือทางโทรศัพท์ 08-1328-9235 และ 06-5058-7543
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์