ผู้การตรังตั้งคณะทำงานสืบสวนคดีหนุ่มรัษฎาตายปริศนา พ่อแม่เชื่อถูกฆาตกรรม


ผู้การตรังตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมา 1 ชุด กรณีการตายของชายวัยรุ่นที่พ่อแม่ติดใจสาเหตุว่าไม่ได้เกิดจากไฟช็อต แต่เกิดจากการถูกฆาตกรรม และอาจเกี่ยวพันกับลูกชายคนมีสี
จากกรณีการเสียชีวิตของ นายธนวิชญ์ หรือหมู สิทคชวัน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 9 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง ซึ่งผลการชันสูตรพลิกศพของหมอในพื้นที่ระบุว่า ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตตาย เหตุเกิดริมคลองสาธารณะ ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 200 เมตร เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562 แต่ต่อมา ญาติได้ติดใจสาเหตุการตาย จึงส่งศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายใหม่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และผลการผ่าพิสูจน์ระบุว่า ตายเนื่องจากสมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุของแข็งไม่มีคม ซึ่งขัดแย้งกับผลสรุปของตำรวจ และหมอในพื้นที่
จนล่าสุด ทางครอบครัวได้มีการเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อตำรวจกองปราบปราม โดยระบุว่า ลูกชายถูกฆาตกรรม และอาจเกี่ยวพันกับลูกชายบุญธรรมของตำรวจในพื้นที่ อีกทั้งคดีผ่านมาแล้วประมาณ 5 เดือน ทางตำรวจในพื้นที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ และเกรงตำรวจไม่ทำงานนั้น
พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า เดิมทางตำรวจก็ทำตามผลการชันสูตรพลิกศพของหมอทุกประการ ว่าเกิดจากไฟฟ้าช็อต ก็มอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่ต่อมาญาติติดใจถึงสาเหตุการตาย จึงส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่ ม.อ.หาดใหญ่ และผลการผ่าพิสูจน์ระบุว่าเสียชีวิตเพราะสมองได้รับบาดเจ็บ จากการถูกกระแทกด้วยวัตถุของแข็งไม่มีคม จึงทำให้ขณะนี้ตนเองได้แต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อทำการแสวงหาข้อมูลพยานหลักฐานใหม่ทั้งหมด และเพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยในทุกประเด็น
ในที่นี้จะมีการเรียกหมอที่ทำหน้าที่ชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นที่ระบุว่า ผู้ตายตายเพราะถูกกระแสไฟฟ้าช็อตตายในน้ำมาสอบปากคำด้วย รวมทั้งพยานแวดล้อมต่างๆ และกำลังรอพ่อแม่ของผู้ตายซึ่งกำลังเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ มาให้ปากคำด้วย โดยเฉพาะแม่ที่ยืนยันว่าเป็นคนไปพบศพคนแรก และมีการดึงศพขึ้นมาจากน้ำ เพื่อมาสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป รวมทั้งสอบพยานแวดล้อมต่างๆ ซึ่งขณะนี้สอบไปแล้วหลายปาก
พร้อมยืนยันทางตำรวจทำงานเต็มที่ จะต้องสอบในทุกประเด็นที่สงสัย และจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีด้วยว่า เหตุใดหลังได้รับผลการผ่าพิสูจน์จาก ม.อ.แล้วยังทำงานล่าช้า ซึ่งหากผลการสืบสวนสอบสวนใหม่ที่จะออกมาระบุว่า เป็นการฆาตกรรมจริง และมีพยานเกี่ยวพันไปถึงใคร ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยไม่เกี่ยวว่าเป็นลูกหลานใคร ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ต้องว่าไปตามถูก





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า