สุดซาบซึ้ง! แม่ตัดสินใจมอบอวัยวะลูกสาววัย 14 ปี หลังประสบอุบัติเหตุจนสมองตาย แพทย์ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เผยสามารถช่วยต่อชีวิตได้อีก 6 ชีวิต ด้านทีมแพทย์สภากาชาดไทย บินด่วนผ่าตัดส่งต่อสะพานบุญ
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลมหาราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช นพ.สมพร สหจารุพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลมหาราช พร้อมด้วยคณะแพทย์ และพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันเคารพร่างของ ด.ญ.ระพีพัฒน์ สุขย้อย อายุ 14 ปี ชาว ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้อยู่ในภาวะสมองตาย โดยการประกาศของแพทย์อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (2 ต.ค.)
หลังจากที่ ด.ญ.ระพีพัฒน์ ได้ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัสจากรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้เข้าสู่ภาวะสมองตาย ทำให้ น.ส.พรรณทิพย์ สุขย้อย อายุ 31 ปี มารดาของ ด.ญ.ระพีพัฒน์ ได้ตัดสินใจมอบอวัยวะของบุตรสาวให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อช่วยชีวิตของผู้อื่นต่อไป ท่ามกลางความซาบซึ้งของคณะแพทย์ และผู้ที่ทราบข่าว
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะแพทย์ และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญจากสภากาชาดไทย ได้บินด่วนพร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือ สำหรับการขนย้ายอวัยวะจากกรุงเทพฯ มายังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และเข้าดูภาวะร่างกายของ ด.ญ.ระพีพัฒน์ ภายในห้องไอซียูของโรงพยาบาลมหาราช ซึ่งพบว่าได้เกิดภาวะความดันลดต่ำลง จึงรีบเคลื่อนย้ายเข้าห้องผ่าตัด เพื่อทำการผ่าตัดนำอวัยวะที่สามารถไปปลูกถ่ายช่วยชีวิตให้แก่ผู้ป่วยรายอื่นอย่างเร่งด่วน โดยการเคลื่อนย้าย ด.ญ.ระพีพัฒน์ เข้าห้องผ่าตัด ตลอดทางมีแพทย์ และพยาบาลยืนแสดงความเคารพ และส่ง ด.ญ.ระพีพัฒน์ เป็นระยะตลอดทางเข้าสู่ห้องผ่าตัด
น.ส.พรรณทิพย์ สุขย้อย อายุ 31 ปี มารดาของ ด.ญ.ระพีพัฒน์ เปิดเผยว่า น้องประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม แล้วศีรษะกระแทกเลือดออกในสมอง กะโหลกร้าว ต้นคอเสียหาย ไขสันหลังเสียหาย แพทย์ยืนยันว่าสมองตายแล้ว จึงตัดสินใจบริจาคอวัยวะให้แก่คนอื่น เพื่อจะได้ช่วยต่อชีวิตให้แก่ผู้อื่น โดยทราบว่าน้องจะได้ช่วยชีวิตคนอื่นได้ถึง 6 คน จะได้เป็นกุศลแก่น้องในภพหน้า
ขณะที่ นพ.สมพร สหจารุพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลมหาราช เปิดเผยว่า น้องระพีพัฒน์ จะได้เป็นสะพานบุญ ได้บริจาคอวัยวะให้แก่ผู้อื่นหลายส่วน ทั้งตับ ไต 2 ข้าง ลิ้นหัวใจ สามารถต่อชีวิตได้อีกหลายชีวิต หลายครอบครัว สร้างกุศลอย่างยิ่งใหญ่ การหาอวัยวะนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทดสอบสมองว่าสมองเสียชีวิต แล้วจะเข้าสู่กระบวนการติดต่อกับสภากาชาดไทย เพื่อหาทีมในการผ่าตัดนำอวัยวะให้แก่บุคคลที่เหมาะสม หลังจากที่เสร็จเรียบร้อยแล้วจะนำไปปลูกถ่ายในทันที โดยที่กรุงเทพฯ จะมีการเตรียมการผ่าตัดทันที ส่วนอวัยวะของน้องระพีพัฒน์ ที่ทีมแพทย์ผ่าตัดนำออกมานั้น จะใช้เวลาราว 5 ชั่วโมง จากนั้นจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยคาดว่าจะสามารถช่วยชีวิตผู้ที่รอการปลูกถ่ายอวัยวะอยู่ได้ถึง 6 คน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
Tags
ข่าวทั่วทิศ