ของขึ้น! “เจ้าคณะจังหวัดสงขลา” ร่อนหนังสือสั่งทุกวัดบอยคอต “หนังน้องเดียว” ด่าพระส่อลามไปทั่วภาคใต้ (ชมคลิป)

 เจ้าคณะจังหวัดสงขลาร่อนหนังสือถึงทุกวัดในสังกัดห้ามรับหรือให้ “หนังน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม” เข้าไปเล่นในวัด หลังนายหนังตะลุงตาบอดชื่อก้องของขึ้นด่ายับ “พระวัดเนินพิจิตร” ที่ไปเปิดการแสดงเรื่องค่าราดแพง ด้านวัดในจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้เริ่มทยอยขานรับมาตรการบอยคอตแล้ว

จากกรณีที่ นายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง นายหนังตะลุงตาบอดเจ้าขอคณะ “หนังน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม” นายหนังตะลุงชื่อดังของภาคใต้ ซึ่งกำลังเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในลีลาการแสดงที่มีบทตลกเป็นตัวนำ อีกทั้งยังถือเป็นนักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งพุ่งแรง ผู้มีน้ำเสียงและลีลาคล้ายตคลึงกับราชาลูกทุ่งขวัญใจคนใต้ เอกชัย ศรีวิชัย โดยมีเพลงดังที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศคือเพลง “ลมหายใจปลายด้ามขวาน” ได้ไปเปิดการแสดงแก้บน ณ วัดเนินพิจิตร ต.เนินพิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลาเมื่อคืนวันที่ 18 ต.ค.2562 ปรากฏว่าระหว่างเล่นหนังตะลุงได้มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าพระสงฆ์ จนเป็นที่วิพากวิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ อีกืทั้งได้สร้างความขัดแย้งตามมามากมายนั้น

วันนี้ (21 ต.ค.) พระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา ได้มีหนังสือที่ จจ.สข. ป. พิเศษ 1112562 กรณีประพฤตไม่เหมาะสมของหนังตะลุง โดยอ้างถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่วัดเนินพิจิตรของหนังตะลุงคณะน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม ที่มีพฤติกรรมไม่เคารพต่อสถานที่ ไม่เคารพต่อศาสนา ไม่เคารพต่อพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ศิลปินไม่ควรแสดงออก และจากพฤติกรรมดังกล่าวที่สร้างความเสียหายให้กับพระสงฆ์ หากยังให้บุคคลดังกล่าวมาแสดงในวัดอีก ยิ่งจะสร้างความเสื่อมแก่คณะสงฆ์

ดังนั้นจึงได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือจากวัดต่างๆ  ให้ระงับหรือยกเว้นการนำหนังตะลุงคณะน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม ไปแสดงในวัดอีก จนกว่าบุคคลดังกล่าวได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบในพฤติกรรมของตนเอง โดยการขอขมาต่อคณะสงฆ์โพสต์ลงในยูทูป และให้ลบโพสต์ที่กล่าวร้ายต่อพระสงฆ์ในยูทูปออกด้วย และขอให้เจ้าคณะอำเภอทุกอำเภอได้แจ้งในเขตการปกครองได้ทราบและปฏิบัติตามให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ในขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ พระครูโสตถิธาดา เจ้าอาวาสวัดเนินพิจิตรก็ได้ทำหนังสือถึง พระมหากิตติพัฒน์ ศิริธัมโม เจ้าคณะอำเภอนาหม่อม จ.สงขลา ชี้แจงให้ทราบว่าตนเองไม่ใช่พระรูปดังกล่าวที่หนังน้องเดียวกล่าวหา เพราะตนไม่ได้เป็นผู้พูดเรื่องที่ถูกหนังน้องเดียวกล่าวหา และก็ไม่มีใครทราบว่าเป็นพระรูปไหนเป็นผู้พูด นอกจากนั้นยังมีวัดต่างๆ อีกหลายวัดที่ออกมาเคลื่อนไหว โดยทำเป็นหนังสือแจ้งให้ทราบว่าจะไม่ให้หนังตะลุงน้องเดียวไปเล่นในวัดเช่นกัน อาทิ เจ้าอาวาสวัดลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น
หนังสือเจ้าคณะจังหวัดสงขลา
หนังสือเจ้าคณะจังหวัดสงขลา

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า ต้นเหตุแห่งปัญหาครั้งนี้เกิดขึ้นจากคืนวันที่ 18 ต.ค.2562 หนังน้องเดียวได้ไปแสดงในงานแก้บนที่วัดเนินพิจิตร ก่อนการแสดงได้มีแม่ค้าที่มากับคาราวานหนังน้องเดียวได้ไปแจ้งกับหนังน้องเดียวว่า มีพระรูปหนึ่งในวันพูดทำนองว่า ถ้าเป็นตนๆ จะไม่รับหนังน้องเดียวมาเล่น เพราะค่าราดคืนละ 80,000 แพงมาก แถมเล่นแต่สวน (หมายถึงเล่นอยู่คนเดียว) ปรากฏว่าในการแสดงหนังคืนนั้นหนังน้องเดียวได้นำเอาเรื่องที่ถูกพระวิพาก์วิจารณ์ไปเป็นประเด็นเปิดฉากด่าพระในวัดเนินพิจิตรต่างๆ นานา จนกรรมการวัดบางคนทนไม่ไหวได้ขึ้นไปข้อร้องให้เลิกด่าพระ แต่น้องเดียวไม่ยอม เล่นหนังไปด่าพระในวัดเนินพิจิตรไปจนเลิกแสดง

นอกจากนี้ภายหลังการแสดงคืนนั้นผ่านไป หนังน้องเดียวยังได้ทำการอัดคลิปเล่าเรื่องที่ถูกพระวิจารณ์ โดยเฉพาะประเด็นค่าราดแพงที่ได้ทำการด่าพระรูปดังกล่าวต่อ โดยที่ยอมรับว่าตนเองก็ไม่รู้ว่าพระรูปนั้นชื่ออะไร และมีตำแหน่งอะไรในวัดเนินพิจิตร แต่ตนเองยอมรับว่าได้ทำการด่าพระตลอดเวลาในการแสดง เพราะไม่พอใจพระรูปนั้น เพราะเงินที่จ่ายก็ไม่ใช่ของพระ พระจึงไม่ควรยุ่งอะไรด้วย ตนจะเรียกเงินค่าราด 80,000 บาทหรือ 100,000 บาทก็เป็นเรื่องของตนเอง
หนังสือเจ้าคณะอำเภอนาหม่อม
หนังสือเจ้าคณะอำเภอนาหม่อม

เป็นที่น่าสังเกตว่า คำด่าพระของหนังน้องเดียวมีการใช้คำว่า “ไอ้โล้น” อยู่ด้วย รวมทั้งมีการแช่งพระที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าจะต้องตายในไม่ช้า เพราะครูหมอของตนเองศักดิ์สิทธิ์ ถ้าครูหมอตนเองไม่แน่จริง คงจะไม่มีเจ้าภาพว่าจ้างจนคิวเต็มถึงปี 2566 แล้ว และอีกมากมาย ซึ่งมีอยู่ในคลิปดังกล่าว และขณะนี้คลิปได้ถูกส่งไปทั่ว ส่งผลให้การวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนและพระสงฆ์ขยายวงกว้างขวางไม่เฉพาะในพื้นที่ จ.สงขลาและภาคใต้เท่านั้น แต่เป็นที่รับรู้กันไปแล้วทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม เสียงวิพากษ์วิขารณ์ส่วนใหญ่ติติงถึงความไม่เหมาะสมถึงกรณีที่นายหนังน้องเดียวนำเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์แค่เรื่องค่าราดแพงไปขยายปมปัญหา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็วิพากณ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นกันได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญที่จะถือโกรธแบบเอาเป็นเอาตาย และออกมาด่าพระอย่างสาดเสียเทเสียดังกล่าว





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า