ตร.ภาค 9 และกองปราบปรามแถลงผลการบุกรวบ 7 ผู้ต้องหา คดีสังหารเสี่ยอู่ซ่อมรถ อ.รัษฎา จ.ตรัง ซึ่งเป็นทีมงานกำนันคนดังของ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้รับการว่าจ้างมาจากพี่ชายนายกเทศมนตรีในพื้นที่
วันนี้ (12 ม.ค.) จากกรณีที่ได้มีคนร้าย 2 คน สวมไอ้โม่งใช้อาวุธปืนพกสั้นและอาวุธปืนสงครามชนิดอาก้า ยิงถล่ม นายธวัชชัย กลับขันท์ อายุ 53 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ ชาว อ.รัษฎา จ.ตรัง จนเสียชีวิตคารถกระบะส่วนตัว ส่วน นางอำภา กลับขันท์ อายุ 54 ปี ภรรยา และนายสมชาย สนมน้อย ลูกจ้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังกลับมาจากไปงานศพ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าอู่ธวัชชัยการช่าง เลขที่ 152 ม.1 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เมื่อคืนวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการตำรวจปราบปราม และ พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้แถลงข่าวผลการนำกำลังตำรวจกว่า 100 นาย แบ่งกำลังออกเป็น 9 ชุด พร้อมหมายจับและหมายค้น เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายทั้งรังของกำนันคนดังในพื้นที่ ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช และบ้านของผู้จ้างวาน โดยสามารถจับผู้ต้องหาและผู้ร่วมขบวนการในคดีนี้รวมทั้งสิ้น 7 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง
ประกอบด้วย 1.นายจิราวุธ ศรีวิรัตน์ หรือโกยัง ผู้จ้างวาน ซึ่งเป็นพี่ชายของนายกเทศมนตรีตำบลคลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง และยังเป็นเพื่อนรักของผู้ตาย เนื่องจากมีอาชีพขายอะไหล่รถยนต์, 2.นายชัชชัย วงค์ใหญ่ หรือไก่ ชาว ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง ผู้ชี้เป้า, 3.นายปรานต์ วงศ์พิพันธ์ ชาว ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้รับงาน ผู้จัดหาทีมงาน และผู้สั่งการ, 4.นายสุชาติ จิตติศักดิ์ กำนัน ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ผู้รับงาน ผู้จัดหาทีมงานและ ผู้สั่งการ โดยจับกุมได้ที่ อ.สิชล จ.นครศรีฯ ขณะหลบหนีไปกบดาน, 5.นายปิยวัฒน์ จิตติศักดิ์ ชาว ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช มือปืน และ 6.นายธนเดช เอียดปราบ ชาว ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ขับรถให้มือปืน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ตำรวจไม่เปิดเผยชื่อ
พร้อมของกลางประกอบด้วย เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุและในการประชุมวางแผน อาวุธปืนพกสั้น 4 กระบอก ซึ่งจะต้องนำไปตรวจสอบว่าเป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ในการก่อเหตุหรือไม่ และรถยนต์สามารถยึดมาได้ 2 คัน ประกอบด้วย รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กท 2894 นครศรีธรรมราช และรถกระบะ อีซูซุ 4ประตู สีขาว ทะเบียน กล 2376 นครศรีธรรมราช ส่วนอาวุธปืนสงคราม ชนิดอาก้า ซึ่งใช้ยิงถล่มด้วยนั้น กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตรวจยึด นอกจากนั้นจากการสอบสวนพบว่า ยังมีมือปืนที่ร่วมทีมสังหารอีก 1 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมจะขออนุมัติหมายจับเพิ่มต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว 3 คน ส่วนที่เหลือยังให้การปฏิเสธ
พร้อมของกลางประกอบด้วย เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุและในการประชุมวางแผน อาวุธปืนพกสั้น 4 กระบอก ซึ่งจะต้องนำไปตรวจสอบว่าเป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ในการก่อเหตุหรือไม่ และรถยนต์สามารถยึดมาได้ 2 คัน ประกอบด้วย รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กท 2894 นครศรีธรรมราช และรถกระบะ อีซูซุ 4ประตู สีขาว ทะเบียน กล 2376 นครศรีธรรมราช ส่วนอาวุธปืนสงคราม ชนิดอาก้า ซึ่งใช้ยิงถล่มด้วยนั้น กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตรวจยึด นอกจากนั้นจากการสอบสวนพบว่า ยังมีมือปืนที่ร่วมทีมสังหารอีก 1 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมจะขออนุมัติหมายจับเพิ่มต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว 3 คน ส่วนที่เหลือยังให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ประเด็นสังหารมาจากผู้จ้างวานคือ นายจิราวุธ ศรีวิรัตน์ หรือโกยัง เข้าใจว่า ผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตนเอง จึงมีความโกรธแค้นและมีการข่มขู่หมายเอาชีวิตมายาวนานแล้ว จนกระทั่งก่อนวันเกิดเหตุทางผู้จ้างวานทราบกำหนดการว่า ผู้ตายจะไปเป็นประธานงานสวดอภิธรรมศพของเพื่อนคนหนึ่ง และได้มีการเจรจาพูดคุยกับกำนันคนดังในฐานะเจ้าของซุ้มมือปืนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงรีบเตรียมการแผนสังหารภายในระยะเวลา 3 วัน ทั้งการนัดพบวางแผนร่วมกันของผู้ต้องหาทั้งหมด การชี้เป้า การนำดูเป้าหมายบ้านผู้ตาย และวันก่อเหตุยังมีคนไปเฝ้าประจำงานศพเพื่อแจ้งเบาะแสทีมสังหาร โดยมีรถยนต์กระบะนำมือปืน 2 คนไปดังซุ่มรอ และวนไปรับหลังก่อเหตุ
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวแสดงความมั่นใจว่า จากพยานหลักฐานทั้งหมดจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาและผู้ร่วมขบวนการในคดีนี้ได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน หรือหากมีผู้มีอิทธิพลเข้ามายุ่งเกี่ยวพัวพันก็พร้อมจะโอนคดีไปให้กองปราบปรามดำเนินการต่อในทันที
Tags
ข่าวเมืองตรัง