วัยรุ่นตรังฝ่าด่านโควิด-19 ชนผู้ใหญ่บ้านขาหัก



ตำรวจสอบปากคำ และลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ วัยรุ่นแหกด่านโควิด-19 ชนผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จนขาหัก ขณะที่ครอบครัวผู้ต้องหาขอความเป็นธรรม ระบุตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานรุนแรงเกินไป
จากกรณีที่ได้เกิดเหตุการณ์ชายวัยรุ่นพยายามขี่รถจักรยานยนต์แหกด่านตรวจโควิด ขณะที่ ร.ต.อ.อภิชัย บุญเมือง หัวหน้าชุดสายตรวจตำบลห้วยนาง และนายสุพิศ สุขรักษา กำนันตำบลห้วยนาง พร้อมกำลัง ชรบ.รวมกว่า 10 นาย กำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด ที่บริเวณหน้าวัดวังหลาม หมู่ 8 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง แต่เมื่อเห็นด่านอยู่ข้างหน้าก็พยายามเลี้ยวรถกลับเส้นทางเดิมในทันที
ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ชุดสกัดกั้นก่อนถึงด่าน ซึ่งยืนอยู่ประมาณ 7 คน ได้รีบเข้าขัดขวาง จนเป็นเหตุให้ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวเฉี่ยวชน นายสมรักษ์ รัตนแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ห้วยนาง จนขาซ้ายหัก ส่วนคนชนคือ นายปิยวัฒน์ สีสลับ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 6 ต.ห้วยนาง ซึ่งเป็นลูกบ้านของผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่รวบตัวได้ขณะเกิดเหตุ เมื่อเวลา 21.30 น. ของคืนวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น




ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย.) ที่หน้า สภ.ห้วยยอด ครอบครัวผู้ต้องหา ทั้งพ่อ แม่ ป้า และน้องสาว ได้รีบเดินทางไปดูนายปิยวัฒน์ พร้อมกับเรียกร้องขอความเป็นธรรมว่า นายปิยวัฒน์ ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าผู้ใหญ่บ้านแน่นอน ดังนั้น การตั้งข้อหาพยายามฆ่าจึงรุนแรงเกินไป เพราะทุกคนรู้จักกันดี แต่ลูกชายทำไปเพราะเชื่อว่าต้องการจะหลบหนีด่าน กลัวถูกจับกุม อาจจะเพราะมีอะไรบางอย่างกับตัว แต่ปกติลูกชายก็ไม่ได้เกเรอะไร อยากขอความเป็นธรรมด้วย และอยากจะเบิกตัวลูกชายไปเอ็กซเรย์ร่างกายให้ละเอียด เพราะลูกชายบอกว่าถูกเจ้าหน้าที่ซ้อมด้วย จึงอยากขอความเป็นธรรมว่าให้ลดหย่อนโทษ และไม่ได้มีเจตนาฆ่าแน่นอน แต่เชื่อว่าคงพยายามจะหลบหนีเท่านั้น
จากนั้น พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ห้วยยอด ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลห้วยยอด เพื่อสอบปากคำ นายสมรักษ์ รัตนแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ห้วยนาง ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านกล่าวยืนยันว่า การตั้งด่านเป็นไปตามระเบียบทุกประการ นำโดยตำรวจสายตรวจ ต.ห้วยนาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุด ชรบ. โดยตนเองและเพื่อน จำนวน 7 คน ทำหน้าที่ชุดสกัดกั้นหน้า คือยืนอยู่ก่อนถึงด่านตรวจ หรือห่างจากด่านประมาณ 100 เมตร ซึ่งหากรถเลี้ยวกลับก็จะเป็นหน้าที่ของพวกตนที่จะต้องออกมาสกัด โดยพวกตนจะถือกระบอกไฟวับๆ เพื่อให้สัญญาณทุกคน โดยยืนอยู่บริเวณหน้าวัด ส่วนที่ด่านซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยก และจะมีรถตำรวจเปิดไฟกระพริบ มีป้ายจุดตรวจ และมีไฟส่องสว่าง สำหรับอาการบาดเจ็บ แพทย์บอกว่าขาหัก 2 ท่อน จะต้องทำการรักษาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน และเชื่อว่าผู้ต้องหาซึ่งรู้จักกันดีตั้งใจชน เพื่อต้องการจะแหกด่านหลบหนีไปให้ได้




พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ห้วยยอด พร้อมด้วย ร.ต.อ.อภิชัย บุญเมือง หัวหน้าชุดสายตรวจตำบลห้วยนาง และผู้ใหญ่บ้าน ได้นำลงตรวจสอบพื้นที่บริเวณหน้าวัดวังหลาม หมู่ 8 ต.ห้วยนาง จุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อประกอบสำนวนสอบสวน ทั้งนี้ พบว่าจุดเกิดเหตุห่างจากด่าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกประมาณ 150 เมตร โดยผู้ต้องหาเลี้ยวกลับ และมีกำลังผู้ใหญ่บ้านดักซุ่มอยู่ จึงออกขวางและเกิดเฉี่ยวชนกันขึ้น เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ครูดไปกับถนนยาวประมาณ 17 เมตร ขณะที่ ร.ต.อ.อภิชัย ยืนยันว่า การตั้งด่านตรงกับแผนปฏิบัติถูกต้อง เพราะมีรถตำรวจ 191 เปิดไฟกระพริบริมทาง มีป้ายหยุดตรวจ พร้อมถือไฟกระบอง ไฟฉาย และมีไฟสว่างชัดเจน ยืนยันผู้ต้องชนเพื่อต้องการหลบหนี

ทางด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ กล่าวว่า ตนได้ลงไปดูพื้นที่ และจำลองเหตุการณ์เพื่อพิสูจน์ความใกล้เคียงของข้อหาว่าพยายามฆ่านั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ ทั้งนี้ ก็พบมีไฟส่องสว่างชัดเจน ถนนกว้าง ซึ่งผู้ต้องหาสามารถมองเห็นได้แต่ไกล แต่เลี้ยวกลับเพื่อพยายามฝ่าฝืน และชนเจ้าหน้าที่เข้าไป จนเป็นเหตุให้ตั้งข้อหาอย่างนั้นได้ แต่ทั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา โดยสามารถโต้แย้งได้เต็มที่ ส่วนอาการคนเจ็บคือผู้ใหญ่บ้านที่ขาหักก็ถือว่าสาหัส ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย








ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า