“ตรัง” ไม่พบป่วยใหม่มาแล้ว 31 วัน หลังตรวจ 83 คนกลับจากมาเลย์ และภูเก็ตไม่ติดโควิด-19


วันนี้ (9 พ.ค.) มีรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรัง เปิดเผยว่า ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย 83 ราย และถูกกักตัวไว้ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.) วิทยาเขตตรัง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ซึ่ง จ.ตรัง ใช้เป็นสถานที่กักกันตัว (Local quarantine) โดยได้ถูกเก็บสารคัดหลั่งในลำคอ (SWAP) ไปตรวจสอบหาเชื้อโควิด-19 เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) ปรากฏว่าเบื้องต้นทั้งหมดได้ผลออกมาเป็น “บวก” คือไม่มีใครติดเชื้อ

โดยการตรวจทั้ง 83 คน เป็นผลจาก นพ.สินชัย รองเดช รองนายแพทย์ สสจ.ตรัง พร้อมด้วย พญ.จิรวรรณ อารยะพงษ์ ผอ.รพ.ตรัง นพ.ไกรสร โตทับเที่ยง รอง ผอ.รพ.ตรัง และบุคลากรทางการแพทย์ ได้ลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการเชิงรุกดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุขที่จะต้องตรวจสารคัดหลั่งทุกๆ 5-7 วัน หากพบเชื้อจะได้เร่งทำการรักษาอย่างรวดเร็ว และหากครบ 14 วันแล้วไม่พบเชื้อก็จะปล่อยตัวกลับบ้าน

ทั้งนี้ จ.ตรังถือว่าโชคดีที่คณะแพทย์ทำงานในเชิงรุก มีการแยกคนออกมา และมีสถานที่เตรียมเรื่องของการจัดการ สำหรับในส่วนของจุดที่เป็นของ Local quarantine จะมีการทยอยตรวจ เนื่องจากมีน้ำยา SWAP เพียงพอที่จะทดสอบกลุ่มคนที่จะเข้ามาในจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เดินทางมาจากมาเลเซีย นอกจากนี้ ยังได้เตรียมห้องสำรองภายใน มทร.เพิ่มอีก 100 ห้องไว้รองรับผู้เดินทางกลับจากมาเลเซีย

พญ.จิรวรรณ กล่าวว่า การตรวจสอบสารคัดหลั่งผู้ที่ถูกกักตัวทางจังหวัดร่วมกันหลายโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถตรวจซ้ำได้ทุกกลุ่ม ทั้งคนที่มาจากมาเลเซียและมาจาก จ.ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้วเกือบ 300 ราย ผลการตรวจเป็นลบหมด ทำให้ จ.ตรังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 31 แล้ว







ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า