เจ้าอาวาสยันจดลิขสิทธิ์ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” ทุกอย่างแล้ว หวั่นหากไม่ดูแลอาจจบเร็วเหมือนยุคจตุคาม


เจ้าอาวาสระบุถ้าจะเชิญวิญญาณ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” ออกจากวัดเป็นไปไม่ได้ ยันจดลิขสิทธิ์ทุกอย่างเอาไว้แล้ว ไม่ขอเอาเรื่องกฎหมายมาดำเนินการ จ่อพักงานพนักงานวัดปล่อย “บิณฑ์-เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์” ไลฟ์สดบนศาลา เผยไม่อยากให้จบเร็วเหมือนยุคจตุคาม

ที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มีความศรัทธา “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มากราบไหว้ขอพรไอ้ไข่เป็นจำนวนมาก โดยผู้ที่ประสบความสำเร็จหลังมาขอพรก็ได้นำประทัดมาจุดแก้บน ซื้อของเด็กเล่น ไก่ชนมาถวายไอ้ไข่ นอกจากนี้ คนที่มาเป็นกลุ่มก็ได้นำคณะกลองยาวมารำถวายที่หน้าเจดีย์ เป็นการสร้างบรรยากาศให้มีความคึกคักเป็นอย่างมาก

พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรืออาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ กล่าวว่า จากกรณีที่มีวัดต่างๆ ได้มีการออกมาบอกว่าได้มีการเชิญ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” ไปอยู่ที่วัดนั้นวัดนี้ และมีการเปิดเป็นวัดสาขาไอ้ไข่ต่างๆ มากมาย อาตมาอยากจะถามว่า การที่บอกว่าเชิญไอ้ไข่ไปใช้อะไร ถ้าเชิญต้องเชิญไปทั้งหมด เชิญไปถึงคนที่เขาปฏิบัติมาเป็นเวลา 100-200 ปี ต้องเชิญพระพุทธรูปที่เป็นจุดกำเนิดของไอ้ไข่คือ “หลวงพ่อเจ้าวัด”

คนที่รับรู้ และสื่อสาร รวมทั้งเป็นผู้สร้างชื่อไอ้ไข่ที่ต้องเชิญเป็นคนแรกคือ “ผู้ใหญ่เที่ยง เมืองอิน” ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงวิทยาคมตั้งแต่ครั้งสมัยวัดร้าง การที่บอกว่าเชิญไอ้ไข่เชิญยังไง ถ้าบอกว่าอธิษฐาน คนที่มาที่วัดเขาก็อธิฐานกันทุกคน เชิญได้ทุกคน การที่ทำแบบนี้เขาทำเพื่อประกาศให้รู้ว่าทำไอ้ไข่ขึ้นมาเป็นวัตถุมงคล แต่จริงๆ ทำไม่ได้ เพราะอาตมาและวัดไม่เคยได้อนุญาตให้ที่ใด วัดไหน สถานที่ใดทำ หรือเอาไอ้ไข่ไปที่นั้น เพราะไอ้ไข่คือความศรัทธาของคนที่ทำให้คนเข้าวัด แล้วเราเอาพระพุทธศาสนาสอดแทรกเข้าไป

ส่วนคนที่บอกว่าเชิญไป อาตมาถามว่าเชิญไปเพื่ออะไร เพื่อหารายได้ใช่ไหม เขาไม่เรียกว่าเชิญ เขาเรียกเกาะติดกระแส เหมือนนักร้องคนหนึ่งเป็นเจ้าของเพลง คนจะเชิญไปร้องทุกบ้านไม่ได้ เราก็ซื้อได้แค่แผ่นเสียงไปฟัง ก็มีแผ่นปลอมแผ่นเก๊อีกก็ว่ากันไป และช่วงนี้เรื่องของไอ้ไข่ก็เยอะมาก มีทั้งในทีวี ในโซเชียล ไม่อยากให้คนตกไปเป็นเครื่องมือ ซึ่งทั้งหมดไม่เกี่ยวกับวัดเจดีย์แต่อย่างใด ส่วนของวัดมีความชัดเจน จะทำอะไรจะมีการปรึกษาหารือ มีการประกาศให้สาธารณชนรับทราบโดยตลอด


ต่อข้อคำถามว่าจะมีการเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่เอาไอ้ไข่ไปแอบอ้างหรือไม่ พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรืออาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ กล่าวว่า อาตมาไม่คิด แต่มีบางวัดเอารูปของอาตมาไปขึ้นป้าย แล้วบอกว่าอาตมาอนุญาตแล้ว ซึ่งกรณีแบบนี้อาตมาจะเอาเรื่อง แต่จะมีการโทรไปบอกกล่าวกันก่อนว่าให้หยุด หากไม่หยุดก็คงจะต้องว่ากันตามกระบวนการ แต่อาตมาเองก็ไม่อยากจะทำแบบนั้นเพราะไม่มีเวลา อยากให้คนที่ทำคิดให้ได้ว่าเขาอาจได้เงินทอง แต่จะทำให้ไอ้ไข่จบเร็วเหมือนกับตอนกระแสจตุคาม หากอาตมาเล่นด้วย อนุญาตให้ทำ สุดท้ายก็จะจบเหมือนจตุคาม แต่อาตมาไม่อนุญาตให้ที่อื่นทำ ส่วนกรณีที่ใดเอาวัดหรืออ้างว่าได้อนุญาต หรืออภิสิทธิ์จากวัดเจดีย์แล้ว อันนี้ต้องว่ากันตามกฎหมาย

ส่วนกรณีของ “บิณฑ์ และเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์” มาไลฟ์สดที่วัดเจดีย์ แล้วบอกว่าอัญเชิญไอ้ไข่ไปด้วยนั้น จริงๆ กลุ่มนี้เขาได้มาทำพระที่วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด และได้เชิญอาตมาไปด้วย เพื่อที่จะให้อาตมาส่งมอบพระให้ แล้วเขาจะได้ถ่ายรูปเพื่อเป็นสื่อ แต่อาตมาติดกิจนิมนต์เลยไม่ได้ไป เขาก็เลยมากันที่วัด แต่ไม่เจออาตมา เขาเลยขึ้นไปในอุโบสถที่ห้ามไม่ให้ขึ้นไป ซึ่งคณะกรรมการที่ดูแลอยู่เขาได้ห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง ที่เขาบอกว่าเป็นการอัญเชิญ แต่จริงๆ ไม่ใช่การอัญเชิญ แต่เป็นการโปรโมทกันเท่านั้น

“ซึ่งสังคมจะเป็นผู้ตัดสินเขาเองว่าเป็นอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาตมาต้องเอาผิดกับคณะกรรมการที่รับผิดชอบตรงนั้น ที่ปล่อยให้บิณฑ์กับเอกพันธ์เข้าไป ทั้งที่เป็นเขตหวงห้าม ทางวัดต้องเชิญเจ้าหน้าที่ออกทั้งหมด 16 คน แต่คิดว่าน่าจะให้พักงานก่อน 1 เดือน ซึ่งต้องคุยกันอีกครั้ง หากยังไม่มีแนวปฏิบัติที่จะช่วยป้องกัน ก็ต้องหาคนอื่นมาทำแทน ส่วนคนที่เป็นภาพในข่าวก็คิดเอาเองว่าจะปล่อยไลฟ์สดออกไปอีกหรือจะยุติ”

เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ กล่าวอีกว่า ทางวัดได้มีการจดลิขสิทธิ์ทุกอย่าง ตั้งแต่รูปปั้นไอ้ไข่ หนังสือประวัติความเป็นมาจดหมด วัตถุมงคลก็จด ซึ่งงานที่วัดสร้างสรรค์ขึ้นมาถือเป็นลิขสิทธิ์ของวัดอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ อาตมาไม่อยากจะเอาเรื่องกฎหมายมาดำเนินการ แต่อยากจะให้ทุกคนโดยเฉพาะคนนครศรีธรรมราช ช่วยกันรักษาปกป้องไอ้ไข่ไว้ให้ยืนยงคู่กับจังหวัด เพราะไม่ได้เลวร้าย แต่มันช่วยสังคมได้พอสมควร อยากให้ช่วยกันดูแล และรักษาดีกว่า อยากให้ดูยุคจตุคามรามเทพเป็นตัวอย่าง หากต่างคนต่างสร้าง ใครก็สร้างได้ ท้ายที่สุดก็จบเร็ว ล่มสลายเร็ว อาตมาไม่อยากให้ไอ้ไข่เป็นอย่างนั้น อยากให้ช่วยกันรักษามากกว่าเป็นวัฒนธรรมความเชื่อของท้องถิ่น เป็นสิ่งที่ทรงคุณคุณค่าประจำถิ่นเท่านั้น

 





 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

 

 

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า