ครูโรงเรียนบ้านบางสัก อำเภอกันตังวอนช่วยเหลือนักเรียน 3 พี่น้อง ชีวิตสุดลำบาก


 ครูโรงเรียนบ้านบางสัก จ.ตรัง วอนช่วยเหลือลูกศิษย์ตัวน้อย 3 คนพี่น้อง ที่มีคุณแม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องออกทำงานในตัวเมืองตรัง และกลับดึกทำให้ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก ต้องอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ แคบๆ เพียงลำพัง


วันนี้ (25 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากครูโรงเรียนบ้านบางสัก ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อขอความช่วยเหลือลูกศิษย์ตัวน้อย 3 คนพี่น้อง คือ น้องพรีม (ชาย) อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 น้องบีม (หญิง) อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 และน้องฮาร์ทบีท (หญิง) อายุ 6 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ซึ่งทั้ง 3 คนปัจจุบันอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ แคบๆ ที่ได้รับการต่อเติมต่อจากหลังร้านรับซื้อปลา ไม่มีเลขที่ ม.2 ต.บางสัก ห่างจากโรงเรียนไม่เกิน 200 เมตร

โดยเด็กทั้ง 3 คนอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ในห้องแบ่งเช่าเล็กๆ นี้มาประมาณ 2 เดือนแล้ว ส่วนพ่อของเด็กเลิกรากับแม่ไปได้ประมาณ 1 ปี โดยภายในห้องแทบไม่มีข้าวของเครื่องใช้ใดๆ มีเฉพาะที่จำเป็นเพียงไม่กี่ชิ้น เช่น เสื้อผ้า เตียงนอน รวมทั้งหม้อหุงข้าวใบเก่า และบานประตูที่ไม่แข็งแรง


ทั้งนี้ ในแต่ละวันแม่ของเด็กต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด เพื่อไปทำงานเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงในตัวเมืองตรัง และจะกลับมาถึงบ้านในช่วงดึก ประมาณ 22.00 น. โดยมีคุณครูอรรฆเดช ชิตแก้ว (ครูสิน) คุณครูประจำชั้นของ น้องพรีม พี่ชายคนโต ทำหน้าที่เลี้ยงเด็กๆ ตั้งแต่หลังเลิกเรียน รอจนกว่าแม่ของเด็กจะมารับ หรือหากวันไหนไม่ได้มารับก็จะต้องนอนค้างกับครูแทน โดยทั้ง 3 พี่น้องได้รับการช่วยเหลือเรื่องอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น จากคุณครูและโรงเรียน และได้รับทุนการศึกษาบางส่วน อย่างไรก็ตาม ทางคุณครูได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากกังวลในสวัสดิภาพของลูกศิษย์ตัวน้อยทั้ง 3 คน เพราะสถานที่อยู่อาศัยในปัจจุบันไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ

คุณครูรชฏนันท์ พระคง (ครูม๊ะ) ครูผู้รับผิดชอบโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านบางสัก กล่าวว่า ตนเองไปเจอสภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆ เมื่อครั้งที่ยังอาศัยอยู่ที่โรงเก็บของเก่าของ อบต.บางสัก เนื่องจากตอนนั้นแม่เด็กทำงานที่หน่วยกู้ชีพของ อบต. แต่ได้เงินเดือนแค่เดือนละ 3,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอจึงต้องหางานใหม่ โดยเข้าไปทำงานเป็นพนักงานร้านข้าวต้มโต้รุ่งในตัวเมืองตรัง

โดยตนมาทราบทีหลังว่า เด็กทั้ง 3 คนต้องอยู่กันโดยลำพังในตอนกลางคืนที่โรงเก็บของเก่าของ อบต. โดยมีพี่คนโตเป็นคนดูแลน้อง และไหว้วานให้เพื่อนบ้านไปรับเด็กที่โรงเรียน และทางโรงเรียนก็ไม่รู้ จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่งเด็กทั้ง 3 คน นั่งรอแม่ที่โรงเรียนจนมืดค่ำ ก็ยังไม่มีใครมารับกลับบ้าน เนื่องจากเพื่อนบ้านคนดังกล่าวติดธุระ ตนเองจึงพาไปส่งบ้าน จึงไปเห็นสภาพว่าเด็กๆ พักอาศัยอยู่ในโรงเก็บของเก่าของ อบต.


ต่อมาแม่เห็นว่าเงินไม่พอ หลังจากทำงานร้านข้าวต้มแล้ว จึงไปทำงานรับจ้างดูแลผู้ป่วยติดเตียงเพิ่ม เพื่อให้ได้เงินเพียงพอมาเลี้ยงดูลูก ทำให้เด็กๆ ต้องนอนอยู่บ้านเพียงลำพัง คุณครูจึงรู้สึกเป็นห่วงเด็ก จึงแนะนำให้แม่ของเด็กมาเช่าห้องพักอยู่ใกล้กับโรงเรียน เพื่อเด็กจะได้เดินไปกลับได้สะดวก ปลอดภัย และอยู่ในความดูแลช่วยเหลือของครูอย่างเต็มที่

ในที่สุดแม่ของเด็กได้พาลูกทั้ง 3 คนพี่น้อง มาอาศัยอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ที่ได้รับการต่อเติมจากด้านหลังร้านรับซื้อปลา ในราคาค่าเช่าเดือนละ 500 บาท แต่สิ่งที่อยากให้สังคมหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือคือ สภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆ จะได้มีความปลอดภัย

ส่วน นางจรัสศรี เกตุกอ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 ม.1 ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นคุณอาของแม่เด็กทั้งสาม กล่าวว่า แม่ของเด็กเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่แต่แบเบาะ ตนเองสงสารหลานจึงรับมาเลี้ยงเองจนโต จนกระทั่งมีครอบครัว แต่มาเลิกรากับพ่อของเด็กได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งตนก็ไปๆ มาๆ มาดูหลานบ้าง แต่ไม่ทุกวัน ตนเองอยากให้หลานทั้ง 3 คนได้รับการศึกษาที่ดี ได้รับทุนการศึกษา เพราะแม่ของเด็กเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องทำงานเลี้ยงลูกน้อยตามลำพัง แรกๆ พ่อของเด็กจะส่งเงินมาช่วยบ้าง แต่ระยะหลังก็ไม่มีและไม่เพียงพอ ตนเองสงสารหลานอยากให้มีทุนการศึกษา และใช้เพื่อดำรงชีพในแต่ละวัน





ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า