ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 16 โดยมี 8 มาตรการควบคุมโควิด 19 เริ่มวันที่ 4 มกราคม 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00 น.
วันที่ 3 มกราคม 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา
9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่
16) ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563
และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่
8 จนถึงวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2564 นั้น
โดยที่การระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ขยายขอบเขตการแพร่โรค
ออกเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายเขตพื้นที่
และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่โดยเฉพาะ
กรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน
ประกอบกับมีการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังไม่ปรากฎอาการของโรคเป็นเหตุให้เชื้อโรคแพร่ออกไปในลักษณะที่เป็นกลุ่มก้อน
นอกจากนี้พนักงานเจ้าหน้าที่
ซึ่งปฏิบัติงานเพื่อควบคุมโรคพบว่า
มีผู้ติดเชื้อโรคบางส่วนปกปิดข้อมูลกำรเดินทางทำให้ขั้นตอนการสอบสวนโรคเกิดความล่าช้าและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องจนส่งผลให้เกิดเป็นการระบาดระลอกใหม่ขึ้นเป็นวงกว้าง
รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่ต้องกำหนดและบังคับใช้บรรดามาตรการต่าง ๆ
เพื่อเข้าแก้ไขและระงับยับยั้งสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวนี้
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และมาตรา 11
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้
1.
การห้ามใช้อาคารหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด
เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ
ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
(1) เป็นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
(2) เป็นการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือให้การอุปการะแก่บุคคล
(3) เป็นกำรจัดกิจกรรมของทางราชการหรือกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยได้รับอนุญาต
จากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด
(4) เป็นโรงเรียนหรือสาบันการศึกษาที่มีขนาดเล็ก ที่มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งโรงเรียนไม่เกิน
หนึ่งร้อยยี่สิบคน หรือเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
2. การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค
ห้ามการจัดกิจกรรมในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้โดยง่าย
เช่น การประชุม การสัมมนา การจัดเลี้ยง การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ
เว้นแต่เป็นการดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่
หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรคโดยมีมาตรการทางสาธารณสุขรองรับ
ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร
หรือผู้ว่าราชการจังหวัดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ความรับผิดชอบ
3.
การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
หรือผู้ว่าราชการจังหวัด อาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อพิจารณา
สั่งปิดสถานบริการสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์
คาราโอเกะ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด
4.
เงื่อนไขการเปิดดำเนินการเขตพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ที่ควบคุมสูงสุด
ให้สถานที่กิจการหรือการทำกิจกรรมดังต่อไปนี้เปิดดำเนินการภายใต้เงื่อนไข
เงื่อนเวลาและการจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ ที่กำหนด
(1) การจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม
ให้จัดระเบียบการเข้าใช้บริการ จำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน
การจัดสถานที่ให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติและมาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด
โดยอาจให้เป็นลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่น
โดยให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงมหาดไทย
และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขร่วมกันพิจารณาประเมินกำหนดรูปแบบ
และกำกับการดำเนินการตามข้อปฏิบัติและมาตรการดังกล่าวของแต่ละพื้นที่จังหวัดให้มีความเหมาะสม
โดยข้อนี้จะบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม
ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีเห็นชอบก่อน
(2) การจำหน่ายสุราสำหรับร้านอาหาร สถานที่จำหน่ายสุรา ห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน
(3)
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม
หรือสถานที่จัดนิทรรศการ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต
หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน
ให้เปิดทำการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ
ภายใต้การดำเนินการมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
5. มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่
เพื่อกำรป้องกันระงับยับยั้งการแพร่โรคที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละเขตพื้นที่สถานการณ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
หรือผู้ว่าราชการจังหวัดอาจพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อในการสั่งปิด
จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของพื้นที่ สถานที่
หรือพาหนะหรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมอื่นในเขตพื้นที่รับผิดชอบซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคเพิ่มเติม
นอกเหนือจากที่กำหนดได้
โดยให้ดำเนินการตามมาตรการหรือแนวปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 15)
6.
การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจและคัดกรองการเดินทางโดยใช้เส้นทางคมนาคมข้ามเขตพื้นที่จังหวัด
โดยเฉพาะการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตามมาตรการที่ ศปก.ศบค. กำหนด
โดยให้พิจารณาถึงความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด
เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็น
ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด
อันอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและทำให้ต้องใช้ระยะเวลาการเดินทางมากกว่าปกติ
7.
ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณารูปแบบการปฏิบัติงานในช่วงระยะเวลานี้
ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง
หรือการสลับวันหรือการเหลื่อมเวลาเข้าปฏิบัติงาน
เพื่อลดจำนวนผู้ปฏิบัติงานและปริมาณการเดินทาง
ซึ่งเป็นมาตรการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
8.
ให้คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายข้อบังคับการใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ตรวจสอบกลั่นกรอง
และเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุญาตให้ผ่อนคลายหรือกระชับมาตรการที่ใช้บังคับกับสถานที่
กิจการ
หรือกิจกรรมเพิ่มเติมได้เพื่อความเหมาะสมต่อสถานการณ์ตามที่เห็นสมควร
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2564 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2564
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
Tags
ข่าวทั่วทิศ