สองหนุ่มพี่น้องชาวตรังหันมาปลูกแตงจีนลอยฟ้าในโรงเรือน จนได้ผลผลิตที่เปลือกบาง เนื้อแน่น กรอบ สีสด รสหวานฉ่ำ เป็นที่ถูกใจของนักชิม แถมยังได้ใบรับรอง GAP จากกรมวิชาการเกษตร
วันนี้ (8 ก.พ.) สองพี่น้อง “เทิร์น” นายมัทวพงษ์ เมืองแก้ว หนุ่ม ม.หอการค้าไทย เอกภาษาอังกฤษ และ “ทาร” นายธวัฒน์ เมืองแก้ว หนุ่ม ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เอกช่างยนต์ ได้ช่วยกันปลูกแตงจีน (ชาวตรังจะนิยมเรียกกันแบบนี้) หรือแตงโมลอยฟ้าภายในโรงเรือน ด้วยความที่พวกเขาต่างชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับการเกษตร และครอบครัวก็ประกอบอาชีพนี้อยู่แล้ว โดยเพียรพยายามลองผิดลองถูกอยู่ประมาณ 1 ปี ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ ได้แตงจีนที่มีน้ำหนักประมาณลูกละ 2-4 กิโลกรัม เปลือกบาง เนื้อแน่น กรอบ สีแดงสด หรือเหลืองสด (สีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ปลูก) ที่สำคัญก็คือ มีรสหวานฉ่ำ เป็นที่ถูกใจของบรรดานักชิม
ทั้งนี้ สองพี่น้องชาวตรังได้ลงทุนสร้างโรงเรือนขึ้นภายใน “รักษ์ตรังฟาร์ม” พื้นที่ว่างริมสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ที่ 5 ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง พร้อมติดตั้งระบบน้ำหยด ส่วนดินที่ปลูกจะใช้การยกร่องแทนที่การปลูกใส่ถุงแบบทั่วไป เนื่องจากพบว่าการปลูกลงดินจะทำให้รากของต้นแตงจีนหาอาหารได้ดีกว่า แข็งแรงกว่า โดยนำปุ๋ยคอก มูลสัตว์ แกลบ ขุยมะพร้าว และวัสดุธรรมชาติอื่นๆ คลุกเคล้าลงไปในดิน แล้วเพาะต้นกล้าแตงจีนมาปลูกเป็นแถวๆ และให้น้ำ ให้ปุ๋ย พร้อมทำเชือกให้ต้นแตงจีนเลื้อยขึ้นไป กระทั่งเมื่ออายุได้ประมาณ 35-40 วัน ก็จะทำการผสมเกษร หลังจากนั้นไม่นานต้นแตงจีนก็จะติดผลและมีขนาดใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
กระทั่งเมื่อผลต้นแตงจีนมีขนาดเท่าลูกเทนนิส สองพี่น้องจะช่วยกันทำเปลเพื่อห้อยลูกเอาไว้ จนเป็นที่มาของคำว่า “แตงจีนลอยฟ้า” ซึ่งตลอดระยะเวลาของการปลูก ต้องคอยดูแลศัตรูพืชที่มีมากมายสารพัดถึงแม้จะอยู่ในโรงเรือนแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเชื้อราในช่วงหน้าฝนเนื่องจากภาคใต้จะมีฝนชุกและยาวนานกว่าภาคอื่น จนบางช่วงเกิดสภาพอากาศปิดหรือไม่มีแสงแดดเลย และเฝ้าระวังแมลงต่างๆ ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งจะทำลายต้นแตงจีนให้เหี่ยวตายภายในไม่กี่วัน พร้อมทั้งต้องคิดค้นการให้ปุ๋ยที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต จึงมิใช่เรื่องง่ายสำหรับการดูแลเอาใจใส่ กระทั่งเมื่อต้นแตงจีนมีอายุได้ประมาณ 60-75 วัน จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวผลได้
สำหรับแตงจีนที่ปลูกรุ่นล่าสุดมี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ เมญ่า ผลทรงรี เนื้อสีแดง จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 40 บาท และฮันนี่มูน ผลทรงกลม เนื้อสีเหลืองส้ม จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 45 บาท ส่วนลูกค้าก็มีมาจากทุกวัย ทุกอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มรักสุขภาพ เนื่องจากต้องทานผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย แต่ปลอดภัย จนทำให้ทางฟาร์มแห่งนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร มกษ.9001-2556 หรือ GAP จากกรมวิชาการเกษตร และกำลังอยู่ระหว่างการผลิตพืชผลคุณภาพชนิดอื่นๆ เพิ่มด้วย เช่น บัตเตอร์นัท มะละกอ ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ทางเพจ “รักษ์ตรังฟาร์ม” หรือโทร.08-1970-4468
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
Tags
ข่าวเมืองตรัง