พี่ยุทธ-น้องไบรท์” “ช่อง 3 ” อีกแล้วครับท่าน เมื่อไหร่ “กสทช.” จะตื่น


 ประชาชนคนเสพสื่อถึงขั้นเอือมระอา


เมื่อรายการเล่าข่าวที่มีคนติดตามรับชมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศอย่างรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ทางช่อง 3 ปล่อย “เฟกนิวส์” อีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ในช่วงการรายงานข่าวบรรยากาศทางท่องเที่ยวที่หาดบางแสน หลังจากคลายล็อกมาตรการควบคุมโควิด-19

โดยมี “พี่ยุทธ” สรยุทธ สุทัศนจินดา นักเล่าข่าวระดับตำนานของวงการสื่อเมืองไทย เป็นพิธีกรรายการคู่กับ “น้องไบรท์” พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ที่มีประสบการณ์เป็นพิธีกรข่าวมาโชกโชนเช่นกัน

แต่ปรากฏว่า เกิดความผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมีการขึ้นภาพหน้าจอประกอบการเล่าข่าว เป็นภาพที่ประชาชนมาเที่ยวเล่นน้ำทะเลแน่นขนัดเต็มชายหาด แล้ว “พี่ยุทธ” ได้ถามว่า “นี่ใช่เหรอ?”

“น้องไบรท์” ก็ตอบอย่างมั่นใจว่า “ใช่ค่ะ นี่เป็นภาพสดๆ ร้อนๆ เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานี่เองค่ะ” แล้ว “พี่ยุทธ” ก็ได้แต่อุทานว่า “โอ้โห” ไม่ได้ทักท้วงแต่อย่างใด

หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เล่าข่าวบรรยายกาศท่องเที่ยวหาดบางแสนจนจบเรื่อง และทั้งเว็บไซต์และเฟซบุ๊กแฟนเพจ Ch3Thailandnews ก็ได้เอาภาพเดียวกันนั้นไปเผยแพร่ต่อ พร้อมกับพาดหัวข่าวว่า “อัดอั้นไม่ได้เที่ยวนาน...บางแสนคนแน่นหาด ร้านค้าขายดี หลังคลายล็อก”

แต่บังเอิญว่ามีชาวเน็ตความจำดี คลับคล้ายคลับคลาว่า ภาพคนแออัดแน่นชายหาดนี่เป็นภาพเก่าหรือเปล่า โดยมีเพจ “ซึ่งต้องพิสูจน์” ได้ทำการพิสูจน์เรื่องนี้่ พบว่า เป็นภาพที่เว็บไซต์สนุกดอตคอม เคยใช้ประกอบข่าวเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2561 พาดหัวข่าวว่า “น้ำทะเลใสเป็นเหตุ คนล้นทะลักหาดบางแสน วอนวันธรรมดาก็มาเที่ยวได้”


ก็เป็นอันว่า “เรื่องเล่าเช้านี้” ปล่อยไก่เล้าใหญ่อีกครั้ง จนคนดูพากันทนไม่ไหว โดยเฉพาะสมาชิกในเพจ The METTAD (เดอะ เมตตาดี) ที่แชร์โพสต์จากเพจ “ซึ่งต้องพิสูจน์” ไปอีกที ต่างออกมาแสดงความเห็นถล่มใส่ช่อง 3 ไม่ยั้ง อาทิ

“ไม่ผิดหวังจริงๆ ช่องนี้... คุ้มค่าทุกนาที ดูทีวีสีช่อง fake news”

“สื่อช่องนี้อีกแล้วเหรอ รายการนี้อีกแล้วเหรอ”


“ใครชงข่าวให้ ...กรรมๆๆๆ = หลายกรรม # คนอ่านข่าวไม่ได้หาข่าวเอง ...เข้าใจค่ะ”

“เรื่องเห็ดยังไม่เครียเลยพ่อคุ๊นนนน คุ้มค่าทุกนาที่จริงๆอิฟลัดดดด”

“ฟ้องเถอะครับ เพื่อเป็นเครื่องเตือนสื่อให้ต้องคัดกรองตรวจสอบข้อมูลก่อนนำเสนอ”

“จอดำไปเถอะ”

เป็นต้น

และคนที่ได้รับผลกระทบจากข่าวนี้เป็นพิเศษ ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น “นายกตุ้ย” ณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองบางแสนนั่นเอง ที่ทนไม่ไหวกับการใช้ภาพแบบมั่วๆ ของช่อง 3 ถึงกับออกมาโพสต์ทางเฟซบุ๊ก “ณรงค์ชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม” ว่า

“ขออนุญาตชี้แจงสั้นๆ กับภาพข่าวนี้ ของช่องนี้ หลายครั้ง สื่อไม่ว่าจะรายเล็กรายใหญ่ พอมีการคลายล็อก ผ่อนปรนกฎระเบียบต่างๆ การเปิดชายหาดบางแสนก็มักเป็นข่าวทุกครั้ง

“บางแสนเปิดหาดให้มาเที่ยวพักผ่อน และให้ทำมาค้าขาย หลังคลายล็อก ทุกครั้งจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาจำนวนมาก แต่ไม่ได้มามากเหมือนในภาพแน่นอน

“ในภาพนี้เป็นไปไม่ได้แน่นอน 1,000% บางแสนมีการจัดระเบียบการตั้งวางเก้าอี้ผ้าใบและร่ม มาตั้งแต่ปี 2558 การตั้งวางเก้าอี้ผ้าใบและร่ม เหลือประมาณ 60% กว่าๆ ของพื้นที่ชายหาดบางแสน ที่เหลือเป็นที่ว่าง บนชายหาด เป็นเขตปลอดร่มปลอดเตียงผ้าใบ ครับ จะไม่ได้มีร่มแน่นตลอดแนวชายหาด

“ขอวิงวอนสื่อช่วยตรวจสอบก่อนนำมาลงสื่อด้วย เพราะหลายๆ ครั้งการลงภาพและการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและบิดเบือนจะเกิดความเสียหายต่อคนอื่น และผู้ติดตามสื่อโปรดใช้วิจารณญาณในการรับทราบสื่อต่างๆ ด้วยก็จะดีครับ

“เสียดายที่สื่อนี้ก็ไม่เว้นในการนำเสนอที่บิดเบือน #ภาพปลอม #จรรยาบรรณ?”

คนระดับนายกเทศมนตรีเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศ ออกมา “คอลเอาต์” ถึงช่อง 3 แบบนี้ ปัญหาคุณภาพข่าวของทีวีช่องนี้คงไม่ใช่ธรรมดาแล้ว

สรยุทธ สุทัศนะจินดา - พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ
สรยุทธ สุทัศนะจินดา - พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ

ก็มีคำถามอยู่เหมือนกันว่า หลังจาก “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” พ้นโทษจากคดีทุจริตค่าโฆษณา อสมท ออกมา และได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านข่าวของกรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจโทรทัศน์ ของช่อง 3 เพื่อให้คำปรึกษาในด้านการพัฒนารายการข่าว และให้คำแนะนำในด้านการปฏิบัติงานของฝ่ายข่าว มีผลตั้งเเต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา ทำไม “คุณภาพข่าว” ของช่องนี้ ยังไม่ดีขึ้นเลย

ตรงกันข้าม กลับเกิดความผิดพลาดในการเสนอข่าวหลายครั้ง เอาเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ อย่างน้อยก็ 3 เรื่อง เช่น กรณี “หมอบุญ” นพ.บุญ วนาสิน ประธาน “ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป” นำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส เสนอข่าวเป็นตุเป็นตะว่ากำลังจะทำสัญญาในช่วงเย็นวันที่ 15 ก.ค. 64 แต่สุดท้ายก็กลายเป็นแค่ “ดีลวัคซีนทิพย์”

หรือกรณีที่ “ไก่” ภาษิต อภิญญาวาท เคลมกลางรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 64 ว่า วัคซีนโมเดอร์นาที่สภากาชาดไทยเตรียมนำเข้ามา 1 ล้านโดส เพื่อฉีดให้คนไทยฟรีนั้น เป็นโควตาที่ตัดมาจากจาก รพ.ธนบุรี ของ “หมอบุญ” ซึ่งต่อมา นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ก็ออกมาแถลงโต้ว่า ไม่ได้ไปแย่งโควตาใครมา แต่เป็นวัคซีนที่สภากาชาดไทยได้จองกับโมเดอร์นาโดยตรงไว้นานแล้ว

และกรณีปล่อยเฟกนิวส์จนอับอายขายหน้าข้ามชาติ ที่บอกว่า คนไทย 7 คนที่เข้าไปเก็บเห็ดล้ำเขตแดนลาวด้าน จ.อุบลราชธานี จนถูกทางการลาวจับกุมนั้น จะได้ฉีดวัคซีนชนิด mRNA ก่อนส่งตัวกลับประเทศไทย เพราะไปขยายความแบบมโนเอาเองจากข้อมูลของ “นายอำเภอสิรินธร” ที่ยังไม่ยืนยันข้อเท็จจริง สุดท้ายก็เป็นแค่ “ข่าวปลอม” จนถูกสื่อลาวสอนมวยกลับมาจนหน้าชา ว่า ขอให้ตรวจสอบที่มาของข่าวสารให้ชัดเจนก่อนจะเผยแพร่ออกไป

สื่อทีวีช่องใหญ่ของประเทศ มีปัญหาเรื่องคุณภาพข่าวขนาดนี้ ก็คงต้องฝากถามดังๆ ไปยัง กสทช.ว่า อำนาจหน้าที่ของท่านตาม พ.ร.บ.กสทช.มาตรา 27 วงเล็บ 6 นั้น กำหนดไว้ว่า “กำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และ กิจการโทรคมนาคม เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้อง และ เป็นธรรม”

ในเมื่ออำนาจหน้าที่มีตามกฎหมายอยู่แล้ว ท่านจะไม่ทำอะไรบ้างหรือ!?






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า