เหตุเกิดที่อำรัษฏาเมื่อรักไม่ยอมจบ ผัวเก่าหึงโหดกระซวกแทงผัวใหม่เจ็บสาหัส

 วันที่ 13 กันยายน จ.ตรัง ตำรวจตรวจสอบเหตุแทงกันเจ็บสาหัส พบเป็นศึกรักเก่า ๆ ลืมไม่ลง โดยผู้ก่อเหตุคือนายนันทยุทธ แก้วศรี อายุ 37 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงนายจารุ สถิตย์ภูมิ อายุ 38 ปี สามีใหม่ของ น.ส.จุรีรัตน์ แก้วอุดม อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของนายนันทยุทธเอง จำนวน 6 แผล ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเย็นวานนี้

จากการสอบสวน น.ส.จุรีรัตน์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและนายจารุ ขับรถ จยย.พ่วงข้างออกจากบ้านแม่ ได้เจอกับนายนันทยุทธ สามีเก่า ได้ขี่จยย.ตามมาหาเรื่องจะทำร้ายร่างกาย พวกตนจึงได้พยายามขับรถหลบเข้าไปที่บ้านของชาวบ้าน แต่นายนันทยุทธ ได้ตามเข้ามาในบ้านและได้ใช้อาวะมีดแทงได้รับบาดเจ็บแล้ววิ่งหลบหนี

ด้านนางเหวียน จันทร์สุข อายุ 70 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุพบกับ 2 สามีภรรยาวิ่งหนีเข้ามาในบ้าน และบอกว่าสามีเก่าไล่ตามมา ให้ช่วยรีบปิดประตูบ้านระหว่างนั้นนายนันทยุทธได้ผลักตนจนเกือบล้มและวิ่งต่อไปในบ้านกระโดดถีบนายจารุจนล้มลงและใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก โดยน.ส.จุรีรัตน์ เป็นลูกจ้างเคยรับล้างจานที่บ้านของตนแต่ไม่ได้มาทำแล้วประมาณ 3 เดือน ตนเองก็เสียใจที่ช่วยเหลือไว้ไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ทราบว่ามีปัญหากันเป็นประจำ ส่วนคนที่ก่อเหตุแทงก็ทราบมาว่าประวัติและนิสัยไม่ค่อยดี และเคยมารับฝ่ายหญิงอยู่บ่อยครั้ง

ด้านนายณัฐวุฒิ ล้อมแก้ว อายุ 47 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน เล่าว่า ทั้งสองฝ่ายเป็นสามีเก่าและสามีใหม่ มีปัญหากันมาตลอด สาเหตุคาดว่านายนันทยุทธ โกรธแค้นฝ่ายหญิงที่มาได้สามีใหม่ระหว่างที่ต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ ก่อนหน้านี้ทางนายนันทยุทธ เคยพูดขู่ไว้ว่าถ้าหากเจอกันที่ไหนก็จะทำร้ายกันที่นั้น

จนเมื่อคืนก่อนเกิดเหตุทั้งระหว่างที่ทั้งคู่ขับขี่รถ จยย.อยู่หน้าตลาดรัษฎาพลาซ่า ตนขายของของในตลาดเห็นเหตุการณ์อยู่ด้วย นายนันทยุทธ ได้ยื้อยุดฉุดกระชากกันจนทาเกิดเหตุที่บ้านแม่ตน

หลังจากที่นายนันทยุทธแทงคู่กรณีแล้ว ตนได้ตะโกนเพื่อห้ามปรามให้หยุดการกระทำ ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งหนี ตนทราบข่าวว่าผู้บาดเจ็บขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เร่งติดตามไล่ล่าตัวเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคณข้อมูลและภาพประกอบจาก ศรีตรังเคเบิลทีวี"คนข่าวท้องถิ่น"