ยิงข่มขู่บ้านผู้ใหญ่หญิงป้ายแดงเมืองตรัง หลังชนะการเลือกตั้งได้แค่วันเดียว


 เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรุดตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 43/5 และบ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 4 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง หลังจากที่มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้าน โชคดีไม่มีผ้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.07 น. วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ในที่เกิดเหตุบ้านทั้งสองหลังเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ติดกัน พบนางดวงพร แสงเงิน หรือแหม่ม อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บริเวณกระจกหน้าบ้านเลขที่ 43/5 ถูกคมกระสุนยิงเจาะทะลุเข้าไปภายในบ้านบริเวณห้องรับแขก 1 นัด ส่วนบ้านเลขที่ 43/1 เป็นบ้านของพี่สาว พบรอยกระสุนยิงเจาะประตูไม้หน้าบ้าน ทะลุไปถึงหลังคาบ้านภายในห้องครัว อีกจำนวน 2 นัด รวม 3 นัด ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ทำการตรวจสอบพบหัวกระสุนปืนจำนวน 2 หัว ฝังอยู่ในฝาผนัง เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นกระสุนปืนขนาด .357 หัวระเบิด ก่อนเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นางดวงพร หรือแหม่ม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองอยู่บ้านกับหลาน รวมแล้ว 2 คน ระหว่างนั้นได้ถูพื้นอยู่บริเวณหลังบ้านภายในห้องครัว ซึ่งเป็นประตูที่เชื่อมต่อกับบ้านทั้งสองหลัง จนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ก็เห็นว่าคมกระสุนเฉี่ยวศีรษะห่างกันเพียงแค่ 1 เมตร ด้วยความตกใจจึงวิ่งไปเรียกหลานที่อยู่ในห้องน้ำพร้อมตะโกนว่า “น้าโดนยิงแล้ว” ก่อนจะวิ่งไปเรียกขอความช่วยเหลือ นายชอบ จริงจิตร อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง บ้านอยู่ติดกัน ก่อนจะวิ่งออกมาดูหน้าบ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
นางดวงพร กล่าวอีกว่า ตนเองลงรับสมัครเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน โดยมีผู้ลงชิงสมัครรวม 2 คน ซึ่งมีการเลือกไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใคร และไม่ปรักปรำใคร ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยมีศัตรู หรือขัดแย้งกับใครมาก่อน อาจจะมีแค่เรื่องเดียวคือผลจากกการที่ตนชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจจะทำให้กลุ่มบุคคลหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พอใจกับผลคะแนน ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ตนเองชนะมาด้วยคะแนนความดีล้วนๆ ไม่มีการซื้อเสียง และไม่เคยระวังตัวมาก่อน ซึ่งคาดว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นเพียงการข่มขู่ เนื่องจากหากคนร้ายหมายจะเอาชีวิตวิถีกระสุนคงจะต่ำกว่านี้ รวมทั้งสามารถที่จะบุกเข้ามายิงภายในบ้านได้ เพราะช่วงเกิดเหตุเปิดประตูบ้านไว้ และอยู่กับหลานเพียงลำพัง
ด้าน นายชอบ จริงจิตร หรือใหญ่ชอบ อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 กล่าวว่า ปมเหตุในขณะนี้คงจะยังไม่โทษใคร รอให้มีพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน ส่วนกล้องจงจรปิดของเทศบาลโคกหล่อ เบื้องต้นทราบว่าเสียหาย ซึ่งอยู่ระหว่างการพยามกู้ภาพและซ่อมแซม ที่ผ่านมาตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านมา 13 ปีจนเกษียณอายุราชการไป จนนางดวงพรมาเป็นต่อ การเมืองระดับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ไม่เคยมีการก่อเหตุยิงข่มขู่หรือหมายชีวิตกันมาก่อน โดยเหตุในครั้งนี้อุกอาจมาก ก่อเหตุในเขตชุมชนเมือง เสมือนบ้านเมืองไม่มีมีขื่อมีแป จึงอยากฝากไปทาง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง นายอำเภอเมืองตรัง ซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชา ช่วยติดตามตัวผู้ก่อเหตุ รวมทั้งคนที่อยู่เบื้องหลัง และสาเหตุในครั้งนี้ให้กระจ่าง
เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านของเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง พบช่วงเกิดเหตุได้มีวัยรุ่นชายจำนวน 2 คน สวมหมวกแก๊ป ขับรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ 110 สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน มาเพียงคันเดียวบนถนนจากทางทิศเหนือของตัวบ้าน เมื่อมาถึงหน้าบ้านคนขับได้เบรกรถเพื่อชะลอความเร็ว ก่อนที่คนนั่งซ้อนท้ายจะใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านติดต่อกันจำนวน 3 นัด และขับหลบหนีไปภายในซอยทางทิศใต้ของตัวบ้าน มุ่งหน้าออกถนนสายแยกต้นสมอ-แยกวัดโคกหล่ออย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู๋ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ศรีตรังเคเบิลทีวี"คนข่าวท้องถิ่น"

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า